หากจะเอ่ยถึงบริษัทที่รับบริการให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญในธุรกิจด้านต่างๆ นั้นมีให้เลือกมากมายในตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเจ้าของธุรกิจรายใหม่ ตลอดจนเจ้าของธุรกิจระดับแนวหน้าที่ต้องการเพื่อนคู่คิดและให้คำปรึกษา เพื่อต่อยอดธุรกิจของตนให้เจริญเติบโต เป็นที่ยอมรับและรู้จักในตลาดเป็นอย่างดี

บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นอีกบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของเมืองไทย ด้วยประสบการณ์ในการบริหารงานผสมผสานกับความเชี่ยวชาญ ด้านการวิเคราะห์ การออกแบบ การตลาด และการขายมาเสริมความสำเร็จให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์มานักต่อนักแล้ว จนเป็นที่รู้จักและประจักษ์ในฝีมือกันเป็นอย่างดีในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งยังเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 15 ปี และเป็นบริษัทในเครือ เน็กซัส กรุ๊ปบริหารงานโดยคุณนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ ผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์และมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล ด้วยความมุ่งมั่นผสานความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ การออกแบบ การตลาด และการขายให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและเพิ่มมูลค่าให้โครงการอสังหาริมทรัพย์เสมือนเป็นบริษัทของตนเองมาโดยตลอด

ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรคุณนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้กล่าวว่า “บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรมานานกว่า 15 ปี โดยให้บริการปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เริ่มตั้งแต่การหาที่ดิน การวิจัย การพัฒนาโครงการการตลาดและการขาย ให้กับลูกค้าโครงการบ้าน คอนโดมิเนียมทาวน์เฮ้าส์ (เรสซิเดนเชียล) เป็นหลัก”

“สำหรับขอบเขตของการให้บริการนั้น เริ่มตั้งแต่การเป็นที่ปรึกษาการพัฒนาโครงการ หาที่ดิน ให้คำปรึกษาวางแผนการจัดทำโครงการในแต่ละรูปแบบ อาทิ โครงการคอนโดมิเนียม บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ตรงความต้องการให้มากที่สุด จากนั้นเราจะทำการดูแลเรื่องการตลาดให้กับลูกค้า ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์การตลาด งบประมาณการตลาดและวางแผนการตลาดให้ ตลอดจนการขาย โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลการขายให้ เริ่มตั้งแต่รับลูกค้า ปิดการขาย ทำสัญญาซื้อขายให้กับลูกค้าด้วยการบริการที่เป็นเลิศ ตามเป้าหมายของเน็กซัส ที่ว่าสร้างความพึงพอใจให้ของลูกค้า และเพิ่มมูลค่าให้โครงการอสังหาริมทรัพย์”

Portrait MD Nexus Property

“การพยายามทำทุกวันให้ดีที่สุด มุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จตามตั้งใจไว้ และมีความสุขทุกวันที่ มาทำงาน”

จับมือทางธุรกิจ เล็งข้อได้เปรียบ ความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์

สำหรับกลุ่มลูกค้าจะมุ่งเน้นเจาะทุกกลุ่มระดับ ตั้งแต่ลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ทั้งนี้เรายังจับมือกับต่างชาติในการเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพื่อสร้างความได้เปรียบและความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งเป็นการเสริมบริการและคำปรึกษาลูกค้าครบวงจรอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงลูกค้าในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศนับเป็นผลดีต่อลูกค้าอย่างมาก โดยลูกค้าต่างชาติจะได้รับคำปรึกษาการลงทุนในประเทศไทย ส่วนลูกค้าไทยจะได้โอกาสที่ดีในการลงทุนต่างประเทศ เป็นต้น

ทั้งคุณนลินรัตน์ ยังเผยอีกว่า “ที่ผ่านมา เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้งมีลูกค้าโครงการในมือมากกว่า 50 ราย คิดเป็นมูลค่าโครงการมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยเริ่มทำโครงการคอนโดมิเนียมตั้งแต่ระดับล้านต้นๆ จนถึงบ้านพักอาศัยระดับราคา 70 ล้านบาท สำหรับลูกค้า 90% ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ที่เหลืออีก 10 % จะเป็นลูกค้าต่างชาติซึ่งปัจจุบันเรามีลูกค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมมากกว่าบ้านพักอาศัย โดยคิดสัดส่วนคอนโดมิเนียมเป็น 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นลูกค้าบ้านพักอาศัยที่ผ่านมาลูกค้าของเราส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมมากกว่าเนื่องจากตลาดค่อนข้างหวือหวาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราเริ่มเข้ามารุกตลาดบ้านพักอาศัยมากขึ้นผนวกกับตลาดบ้านพักอาศัย เป็นตลาดที่น่าจับตาถึงแม้จะไม่หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมากซึ่งจุดเด่นของทีมงานเน็กซัสฯ คือ การผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ การออกแบบ การตลาด และการขาย มาเสริมความสำเร็จใหักับโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นให้คปรึกษาที่ครบวงจรด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เหมือนกับเป็นเจ้าของโครงการ ด้วยการมุ่งเน้นเพื่อผลประโยชน์สูงสุดให้ก้บลูกค้าและเน้นการให้บริการที่เป็นเลิศทั้งก่อนและหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าสูงสุด ด้วยประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพในด้านให้คำปรึกษาเชิงลึกในงานสถาปัตยกรรม รวมทั้งการวิเคราะห์กลยุทธการตลาดเชิงลึกให้กับลูกค้าที่ตรงจุดและแม่นยำ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงทำให้ เน็กซัสฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเรื่อยมา

โครงการ 749 เรสซิเด้นท์ เป็นหนึ่งโครงการเด่นและน่าสนใจในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นโครงการที่ค่อนข้างแตกต่างจากตลาดและน่าสนใจอย่างมาก เป็นบ้านเดี่ยว 7 หลัง บนถนนสุขุมวิท 49 ราคาเริ่มต้น 60-70 ล้านบาท แบ่งเป็นชั้นลอย 2 ชั้น และมีสระว่ายน้ำด้วยความแตกต่าง การออกแบบที่ลงตัวและที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีซึ่งจากการเปิดขายเหลือเพียงอีก 1 หลังสุดท้ายก็จะปิดการขายโครงการแล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น โครงการคอนโดมิเนียม โมทีฟ แจ้งวัฒนะ, เอสเพน, คอนโดมิเนียม ในกลุ่มเนาวรัตน์พัฒนาการ เป็นต้น

สำหรับแผนการตลาดปีนี้ เราเชื่อมั่นว่าตลาดต่างชาติน่าจะเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยมากขึ้น อาทิ กลุ่มยุโรปจีน และตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าจับตา เนื่องจากมีความสนใจที่จะเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยค่อนข้างสูงเนื่องจากราคอสังหาริมทรัพย์ในไทยไม่สูงมากนักหากเทียบกับประเทศดังกล่าว เช่น ฮ่องกง สำหรับ ภาพรวมตลาดธรุกิจอสังหาริมทรัพย์ปีพ.ศ. 2559 ในกรุงเทพฯ ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตในอัตราคงที่ อุปทานใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียมน่าจะเพิ่มอีก 50,000 หน่วย ราคาปรับขึ้นอีกอย่างน้อย 7% โดยราคาคอนโดมิเนียมในเมืองจะเห็นอัตราการปรับขึ้นของราคาที่สูงกว่าตลาดรอบนอก หรือสินค้าประเภทซิตี้ คอนโดมิเนียม”

แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมปี พ.ศ. 2559

นอกจากนี้คุณนลินรัตน์ ยังได้เผยถึงแนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียม ปีพ.ศ. 2559 ว่าเป็นตลาดของซูเปอร์ลักชัวรี่ และลักชัวรี่คอนโดมิเนียม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ในตลาดซูเปอร์ลักชัวรี่ มากกว่า 500 หน่วย โดยผู้พัฒนาโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นดีเวลลอปเปอร์ขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับประเทศหรือนานาชาติ เนื่องจากผู้ซื้อจะต้องเชื่อมั่นทั้งแบรนด์และภาพลักษณ์ของโครงการและเจ้าของโครงการด้วย ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์สำหรับตลาดนี้ราคาคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่าง 150,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร ทำเลจะอยู่ติดรถไฟฟ้าใจกลางเมืองโดยผู้พัฒนาโครงการส่วนใหญ่จะเป็นดีเวลลอปเปอร์ขนาดกลางถึงใหญ่ ที่สามารถซื้อที่ดินในราคาสูงและมีโอกาสในการหาที่ดินแปลงสวยๆ ได้ ราคาคอนโดมิเนียมในตลาดนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 5-12 ล้านบาท จำนวน 1-2 ห้องนอน เป็นหลักขนาดห้อง 30-60 ตารางเมตร

ตลาดซิตี้ คอนโดมิเนียม แบ่งได้เป็นหลายกลุ่ม กลุ่มที่ 1 ราคา 2.5-5 ล้านบาท (80,000-120,000 บาทต่อตารางเมตร)กลุ่มที่ 2 ราคาต่อหน่วย 1-2.5 ล้านบาท (50,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร) ผู้ซื้อในตลาดนี้จะเป็นคนไทยที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย การขยายครอบครัว และเป็นบ้านหลังแรก เป็นหลัก มีผู้ซื้อบางส่วนเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการมีบ้านหลังที่สองเพื่ออยู่ชั่วคราวและเก็บไว้ลงทุน สินค้าในกลุ่มนี้มีทำเลที่ตั้งที่สะดวกและระดับราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ ปัจจัยต่อมาเป็นเรื่องของความคุ้มค่าของการใช้พื้นที่ ในกลุ่มนี้ผู้พัฒนาโครงการอาจเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากแบรนด์ไม่มีความสำคัญเท่ากลุ่มอื่น และผู้ประกอบการรายย่อยอาจมีโอกาสเรื่องต้นทุนที่ต่ำกว่า สำหรับความต้องการคอนโดมิเนียมในกลุ่มนี้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราคงที่ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อการเติบโตคือราคาสินค้าที่จะต้องไม่สูงเกินกว่าความสามารถในการซื้อ

ส่วนแนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปีพ.ศ. 2559 ทำเลคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจยังคงเป็นทำเลซูเปอร์ไพร์ม เช่นหลังสวน เพลินจิต ศาลาแดง พร้อมพงษ์ และทองหล่อ ส่วนทำเลริมแม่น้ำก็เริ่มเป็นที่จับตาสำหรับนักลงทุนหลายกลุ่มในช่วงนี้ ทั้งระดับลักชัวรี่ และซิตี้ คอนโดมิเนียม รวมทั้งส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสายสีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีม่วง ก็น่าจับตามอง อย่างไรก็ตามราคาที่ดินเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการในการผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในระดับกลางที่มองหาซิตี้ คอนโดมิเนียม เป็นอย่างมาก

Previous articleอนาคตอสังหาฯ ภาคตะวันออก หลังยุคต่อไป (ตอนที่ 2)
Next articleการเชื่อมเหล็กในงานก่อสร้าง (Welding for Construction Work) ตอนที่ 1
Builder
กองบรรณาธิการนิตยสาร Builder - เดิมเคยเป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ ภายใต้ชื่อ Builder News เผยแพร่เนื้อหาข่าวสารเกี่ยวกับวงการธุรกิจก่อสร้างมากว่า 10 ปี ต่อมาจึงปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นนิตยสารรายเดือนในชื่อว่า Builder เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นไปในยุคปัจจุบัน มุ่งนำเสนอเรื่องราวในวงการก่อสร้าง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบตกแต่ง ตลอดจนความรู้เรื่องวัสดุอย่างครบวงจร