หลังจากได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในงานสถาปนิก’68 ปีนี้ D Fense แบรนด์ระบบประตูเลื่อนเพื่อความปลอดภัยจาก บริษัท ฟายด์ เวอร์ค กรุ๊ป จำกัด พร้อมกลับมาร่วมงานสถาปนิก’69 อีกครั้งด้วยโซลูชันที่พัฒนาต่อยอดจากประสบการณ์จริงกว่า 30 ปี เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยของประตูเลื่อนในอาคารทุกประเภท ผลิตภัณฑ์ของ D Fense นำโดย คุณสมชัย ยุทธนาภินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟายด์ เวอร์ค กรุ๊ป ผู้คิดค้นและพัฒนาระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่ระบบประตูเลื่อนทั่วไปไม่สามารถตอบโจทย์ได้

นวัตกรรมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากประตูเลื่อนโดยเฉพาะ

จุดเริ่มต้นของ D Fense เกิดจากการสังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า—บานประตูเลื่อนล้มหลุดจากราง ซึ่งเสี่ยงอย่างมากต่อการบาดเจ็บ โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือพื้นที่สาธารณะ เช่น โรงเรียนและโรงพยาบาล คุณสมชัยอธิบายว่า “ระบบของเราออกแบบให้ทำงานเหมือน ‘ถุงลมนิรภัย’ ของประตูเลื่อน ช่วยล็อกบานทันทีเมื่อเกิดแรงกระแทกหรือหลุดจากแนวปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้บานประตูล้มทับคนหรือสิ่งของ”

จุดเด่นหลักของระบบ D Fense ได้แก่ ชุดรางและลูกล้อออกแบบเฉพาะ ทำงานประสานกันเพื่อป้องกันการล้มของบาน บานประตูสามารถ ตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีตัวค้ำ รองรับประตูหลายรูปแบบ—เลื่อนตรง, เลื่อนซ้อน, เลื่อนโค้ง และระบบเลี้ยวเก็บซิกแซก วัสดุทั้งหมดทำจากอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปพิเศษ แข็งแรง ไม่เป็นสนิม เพิ่มความปลอดภัยแต่ยังคงความสวยงามและความกลมกลืนกับบานประตูเดิม

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ยังได้รับ รางวัลจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมการจดลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตอกย้ำความเป็นนวัตกรรมรายแรกของไทยที่พัฒนาโซลูชันนี้อย่างจริงจัง

แม้เป็นยุค AI แต่ประสบการณ์จริงยังคงเป็นหัวใจสำคัญ

เมื่อถามถึงบทบาทของ AI คุณสมชัยกล่าวว่า แม้เทคโนโลยีจะมีประโยชน์หลายด้าน แต่ในงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับวัสดุและพฤติกรรมของระบบอย่างประตูเลื่อน ประสบการณ์จริงนับสิบปีสำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม ในด้านการตลาด บริษัทเริ่มนำ Social Marketing และระบบออนไลน์มาช่วยสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งได้รับผลตอบรับดีจากกลุ่มผู้ที่ต้องการโซลูชันด้านความปลอดภัย

ออกแบบด้วยแนวคิด Wellness Architecture – เพราะความปลอดภัยคือสุขภาวะ

แม้ D Fense จะเป็นระบบเชิงวิศวกรรม แต่แนวคิด Wellness Architecture ถือเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบ เพราะ “ความปลอดภัย” คือองค์ประกอบหลักของคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้นระบบจึงถูกออกแบบให้ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในอาคาร ใช้วัสดุทนทาน ไม่ขึ้นสนิม ดูแลรักษาง่าย ประยุกต์ใช้ได้ในอาคารทุกประเภท ทั้งบ้านพัก โรงเรียน โรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน แนวคิดนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ D Fense ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์เสริม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบอาคารเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานในระยะยาว

ผลักดันมาตรฐานใหม่ให้ทั้งวงการอสังหาฯ และงานออกแบบสถาปัตยกรรม

นวัตกรรมของ D Fense ไม่ได้แก้ปัญหาเฉพาะในระดับบ้านหรือโครงการ แต่ยังช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งอุตสาหกรรมในเรื่องของการ เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารสาธารณะ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่ราชการ ที่ต้องใช้งานประตูเลื่อนจำนวนมาก ระบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุระยะยาว โดยเฉพาะในพื้นที่เด็กหรือผู้สูงอายุ เพิ่มทางเลือกให้สถาปนิกและผู้ออกแบบ เพราะด้วยความสามารถรองรับบานขนาดใหญ่และรูปทรงพิเศษ จึงเปิดโอกาสให้เกิดดีไซน์ใหม่ ๆ ในอาคารสมัยใหม่ได้อย่างไร้ข้อจำกัด ไปจนถึงเรื่องของการส่งเสริมความยั่งยืนผ่านการยืดอายุการใช้งานของวัสดุด้วยระบบที่แข็งแรง ลดการเปลี่ยนอะไหล่ และเพิ่มอายุการใช้งานของบานประตูในภาพรวม

สัมผัสนวัตกรรมประตูเลื่อนแห่งอนาคตในงานสถาปนิก’69

ปีนี้ D Fense มาพร้อมกับระบบราง–ลูกล้อความปลอดภัยรุ่นล่าสุด ระบบป้องกันประตูเลื่อนล้ม รุ่นพัฒนาใหม่ ตัวอย่างการติดตั้งกับประตูเลื่อนรูปแบบพิเศษ เช่น ประตูสูง 6.3 เมตร, ประตูยาว 50 เมตร และประตูเลี้ยวซิกแซก พร้อมโซลูชันเสริมสำหรับโครงการขนาดใหญ่ และจะเป็นครั้งแรกที่ผู้ชมจะได้เห็นความสามารถของระบบประตูเลื่อนแบบเต็มรูปแบบ

ร่วมสัมผัสนวัตกรรมที่มาพร้อมความปลอดภัยของประตูเลื่อน ได้ที่บูธ D408/1 ภายในงานสถาปนิก’69 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2569 เวลา 10.00–20.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Previous articleแอร์โรเฟลกซ์ นวัตกรรมฉนวนเพื่อสุขภาพและพลังงานของอาคาร ในงานสถาปนิก’69
Next articleอารีย์อภิรักษ์ เปิดวิสัยทัศน์ “ไม้จริงเพื่อสุขภาวะ” ที่งานสถาปนิก’69