เป็นที่รู้กันว่าซาอุดีอาระเบียเป็นเมืองแห่งความมั่งคั่ง เทคโนโลยี และการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ล่าสุด Mohammed bin Salman มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียได้เปิดเผยแพลนที่จะสร้าง “The Line” ชุมชนที่สามารถเดินถึงกันได้ด้วยทางเดินยาว 100 ไมล์ด้วยแนวคิดพลังงานหมุนเวียน (Zero-energy) สำหรับผู้คนกว่าล้านชีวิต

โดยเมืองที่เป็นทางยาวนี้จะไม่มีรถหรือถนนเลย และพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมดจะสามารถเดินถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นได้ภายใน 5 นาที ซึ่งเป็น “การปฏิวัติอารยธรรมที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นสิ่งแรก” Bin Salman ให้คำนิยามแก่ The Line

เมืองหลวงที่ยาว 100 ไมล์ (170 กิโลเมตร) จะประกอบไปด้วย “City Modules” เป็นชุมชนที่เชื่อมกันหมด และเชื่อมต่อไปสู่ชายฝั่งทะเลแดงและตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย โดยที่ The Line จะเป็นส่วนหนึ่งของ “Neom” ภูมิภาคมูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ของซาอุดีอาระเบียซึ่งจะครอบคลุมซาอุดีอาระเบีย จอร์แดนและอียิปต์ โดยขับเคลื่อนจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด ซึ่ง Bin Salman ผู้ซึ่งเป็นประธานกรรมการบอร์ดบริหารของ Neom Company กล่าวว่าการก่อสร้างเมืองดังกล่าวจะเริ่มในไตรมาสแรกของปี 2021

เมืองที่ไม่มีทั้งรถและถนน

“การขนส่งความเร็วสูง สิ่งอำนวยความสะดวก โครงสร้างพื้นฐานแบบดิจิทัล และโลจิสติกส์จะเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ในพื้นที่ที่มองไม่เห็นรอบ ๆ The Line” ซึ่ง Bin Salman ทรงสร้างโครงการ The Line ขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหามลภาวะและการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมียานพาหนะที่ขับเคลื่อนโดย AI ซึ่งทางรถไฟใต้ดินและการขนส่งสินค้าความเร็วสูงจะอยู่ใต้ดิน ชั้นพื้นดินจะเป็น “ชั้นทางเดินเท้า” ที่รองรับโดยชั้นใต้ดินสองชั้น ประกอบไปด้วย “Service layer” ซึ่งเป็นชั้นของโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ใต้พื้นดินโดยตรง และชั้นลึกลงไป “Spin layer” สำหรับการขนส่ง

โครงสร้างทั้งหมดจะเชื่อมต่อระหว่างชุมชนต่าง ๆ ซึ่ง Neom จะสร้าง 1 ล้านครัวเรือนกินพื้นที่ตลอด 100 ไมล์ โดยการขนส่งจากปลายด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านของ The Line จะใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น จากคำบอกเล่าของผู้พัฒนา Neom

“ในปี 2050 ระยะเวลาเดินทางจะเพิ่มเป็น 2 เท่า” Bin Salman ตรัส “ผู้คน 1 ล้านชีวิตจะต้องย้ายที่อยู่เนื่องจากการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นทำให้ 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจะต้องสูดอากาศที่เป็นพิษ”

“ทำไมพวกเราถึงต้องเสียสละธรรมชาติเพื่อผลประโยชน์ของการพัฒนา? เหตุใดผู้คน 7 ล้านคนต้องสังเวยชีวิตเนื่องจากมลพิษ ทำไมพวกเราสูญเสียผู้คน 1 ล้านชีวิตทุก ๆ ปีจากอุบัติเหตุทางรถยนต์” พระองค์ตรัสเพิ่มเติม

ชุมชนที่ขับเคลื่อนด้วย AI

การขนส่งโดย AI จะสร้างด้วยการควบคุมข้อมูลขนาดใหญ่ (massive data harnessing) ผู้พัฒนา The Line กล่าวว่าชุมชนจะถูก “จดจำ (cognitive)” และขับเคลื่อนโดย AI ซึ่งจะ “เรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ชีวิตผู้คนง่ายขึ้น”

“ข้อมูลประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์จะถูกนำมาใช้งานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานให้ไกลกว่าเมืองอัจฉริยะที่ใช้เพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น” เขากล่าวเพิ่มเติม

สิ่งปลูกสร้างจะเป็น Carbon-positive ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนโดยพลังงานสะอาด ส่วน Layout ของ The Line จะอยู่ในพื้นที่ของภูมิภาค Neom ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เส้นทางการค้าที่สำคัญนั่นเอง

หาก The Line สร้างสำเร็จแล้ว มันคงเป็นเมืองต้นแบบให้แก่หลากหลายเมืองเพื่อที่จะเป็นเมืองแห่งพลังงานสะอาด เทคโนโลยี และความสะดวกสบายที่ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ นอกจากนี้ ผู้คนยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งปราศจากปัญหามลพิษและอุบัติเหตุทางรถยนต์อีกด้วย

หวังว่าเราจะเห็น The Line ขยายไปทั่วอาณาเขตทั่วโลกกันนะ

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.dezeen.com/2021/01/13/line-saudi-arabia-170-kilometres-long-city-neom/

https://whatistheline-newsroom.neom.com/the-line-launch-media-kit-361021

Previous article‘TOA’ ถอดรหัสเทรนด์สีใหม่ ปี 64 เพื่อที่อยู่อาศัยในยุค New Normal
จาก 10 แรงบันดาลใจสถาปนิกชื่อดัง
Next articleเศษขยะเยอะนักใช่ไหม? งั้นเจอ “FabBRICK” อิฐที่ผลิตจากเศษผ้าหน่อยเป็นไง
Porntiwa
สาวรัฐศาสตร์หน้าใส หัวใจรักการเขียน ผู้ผันตัวจากสายการเมือง มุ่งหน้าสู่สถาปัตยกรรมเต็มตัว