“ห้องครัว” ถือเป็นหนึ่งจุดสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ภายในบ้าน เพราะไม่ใช่เป็นเพียงจุดประกอบอาหารเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่จะสร้างช่วงเวลาดี ๆ กับคนในครอบครัว การที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบครัว จะทำให้เรามีความสุขและเอนจอยกับโมเมนต์นั้น ๆ

ปัจจุบันห้องครัวแบ่งออกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ครัวใน ครัวนอก ครัวเปิด ครัวปิด ครัวไทย ครัวฝรั่ง เป็นต้น แต่หากจะทำกับข้าวหนัก ๆ ที่ส่งกลิ่นฉุน การมีครัวนอกบ้านก็นับว่าเป็นการแก้ปัญหากลิ่นอาหารลอยฟุ้งในบ้านได้อย่างดีทีเดียว

แต่หากใครที่ไม่มีครัวนอกบ้าน และต้องการจะต่อเติมนั้น ก็ต้องรู้ข้อกำหนด ข้อควรระวัง รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ทำให้ในอนาคตเกิดอาการทรุดตัว นอกจากจะปวดหัวกับการมานั่งแก้ปัญหาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะมีหนูหรือแมลงสาบเข้ามาในพื้นที่ครัว สร้างความน่าสยดสยองให้กับบ้านของคุณ

ต้องดูพื้นที่ที่จะต่อเติม

โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะนำพื้นที่ซักล้างหลังบ้านมาต่อเติมเป็นครัว แต่เราก็ควรที่จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับซักล้างด้วย ดังนั้นจึงอาจมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ บางโครงการมีพื้นที่ซักล้างขนาดใหญ่ก็อาจจะดีหน่อย แต่หากโครงการในมีพื้นที่ให้ต่อเติมน้อย ก็อาจจะต้องออกแบบให้มีฟังก์ชันที่ครบครัน

สิ่งสำคัญสำหรับห้องครัวคือ เคาน์เตอร์ครัวสำหรับเตรียมอาหาร บางโครงการมีการบิลท์อินมาให้เป็นแนวยาว บางโครงการไม่มีให้ก็ต้องมาจัดวางกันเอง หากอยากได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มก็ต้องหาชุดครัวเข้ารูปตัวแอลที่มีตู้ทั้งด้านบนและล่าง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

ต้องรู้เรื่องกลิ่นและควัน

ฟังก์ชันที่ควรมีอย่างมากเลยคือที่ดูดควัน สำคัญมากหากคุณเป็นคนที่มีจิตวิญญาณของความเป็นเชฟ ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด ยังไงก็หลีกเลี่ยงเรื่องกลิ่นและควันไม่ได้อยู่ดี นอกจากจะรบกวนคนในบ้านแล้ว ยังอาจจะรบกวนเพื่อนบ้านก็เป็นได้

การต่อเติมครัวควรจะยกสูงกว่าปกติ เพื่อให้ที่ดูดควันพ้นรัศมีบ้านอื่น ๆ หากเป็นบ้านเดี่ยวก็อาจจะดีหน่อย แต่ถ้าเป็นทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์ อาจต้องให้ความสำคัญกับเครื่องดูดควันสักหน่อย

ต้องระวังคราบสกปรก

นอกจากปัญหาเรื่องกลิ่นและควันแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างคือเรื่องคราบสกปรกที่จะเกาะตามผนัง ฝ้า เพดาน หรือหลังคา เพราะส่วนใหญ่จะใช้รั้วบ้านด้านหลังมาเป็นส่วนหนึ่งของผนังห้องครัว หากใครไม่อยากมีปัญหาเรื่องนี้ สามารถเลือกใช้สีหรือต่อเติมแบบปูนเปลือยไปเลย ใช้สีอะคริลิคแบบผิวมันที่ทำความสะอาดง่าย หรือใช้สีทึบ ๆ ไปเลยก็ได้

หลังคาก็อาจจะใช้กระเบื้องโปร่งแสง หรือใช้เป็นกันสาดแบบม้วนก็ได้ เพื่อให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไปในตัว การที่ได้แสงส่องเข้ามาในห้องครัวนั้นจะทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง แถมยังใช้แดดฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นได้ดีอีกด้วย

เสาเข็มและผนังเป็นสิ่งสำคัญ

บ้านโครงการในปัจจุบันจะให้เสาเข็มมาอยู่แล้ว อาจต้องสอบถามกับโครงการดู แต่หากใครไม่มั่นใจจุดนี้ แนะนำให้ตอกเสาเข็มลงไปจนถึงชั้นดินแข็งเพื่อลดการทรุดตัวของพื้นที่ที่จะต่อเติม และจะทำให้ครัวที่ต่อเติมนั้นมั่นคง แข็งแรง หากลงไม่ถึงอาจจะทำให้โครงสร้างทรุดตัวได้ง่าย

ที่สำคัญไม่ควรจะใช้เสาเข็มเดียวกับตัวบ้าน เพราะจะเสี่ยงทำให้ทั้งครัวที่เราต่อเติมและพื้นที่หลังบ้านทรุดตัวตามกัน (ในกรณีที่ลงเสาเข็มไม่ลึกพอ) การลงเสาเข็มแยกจากตัวบ้านเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด อาจต้องใช้งบประมาณสักหน่อยแต่ก็ดีกว่ามานั่งแก้ปัญหาในอนาคตซึ่งอาจใช้งบมากกว่าต่อเติมด้วยซ้ำ

ผนังก็เช่นกัน ไม่ควรใช้ร่วมกับตัวบ้านเด็ดขาด เพราะจะเป็นการไปรั้งผนังบ้าน อาจทำให้เกิดรอยร้าว รั่วซึม หากหนักมาก ๆ ก็อาจจะทรุดลงได้ พื้นที่ต่อเติมควรต่อเติมใหม่จริง ๆ เพื่อป้องกันบ้านที่เรารักมีปัญหา

ภาพจาก ihome108

คำนึงถึงข้อกฎหมาย

ควรเคร่งครัดกับ “กฎหมายต่อเติมอาคาร” เพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาที่อาจจะตามมาจากเพื่อนบ้านได้

  • ตรวจสอบการต่อเติมว่าต้องขออนุญาตหรือไม่ หากต่อเติมตั้งแต่ 5 ตารางเมตรขึ้นไป จะต้องขออนุญาตก่อสร้างก่อน แต่หากดัดแปลงขนาดพื้นที่บ้านที่มีการลดหรือการขยายเนื้อที่ของพื้นชั้นหนึ่งชั้นใดให้มีเนื้อที่น้อยลงหรือมากขึ้นรวมกันแล้วไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคาน รวมถึงการดัดแปลงหลังคาบ้านมีการลดหรือการขยายเนื้อที่ของหลังคาให้มีเนื้อที่มากขึ้นรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคานแบบนี้ไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง
  • หากเป็นทาวน์เฮ้าส์หรือทาวน์โฮมจะต้องเว้นพื้นที่ว่างด้านหลังกว้างอย่างน้อย 2 เมตร และด้านหน้าไม่น้อยกว่า 3 เมตร หากเป็นอาคารพาณิชย์จะต้องเว้นพื้นที่ว่างทางด้านหลังกว้างอย่างน้อย 3 เมตรจากแนวเขตที่ดิน
  • ผนังด้านที่เปิดประตู-หน้าต่างที่สูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องอยู่ห่างจากเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร แต่หากสูงเกิน 9 เมตร จะต้องห่าง 3 เมตรขึ้นไป
  • สำหรับผนังทึบจะต้องเว้นระยะห่างเขตที่ดินอย่างน้อย 0.50 เมตร ยกเว้นจะได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียง

ในเรื่องของกฎหมายหรือข้อกำหนดอื่น ๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างสถาปนิกหรือนักออกแบบเพื่อการก่อสร้างที่ถูกต้องและปลอดภัย

ภาพจาก industry-media

พื้นครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน

พื้นห้องครัวควรจะลดระดับให้ต่ำกว่าพื้นที่บ้านประมาณ 5-10 เซนติเมตร และต้องลาดเอียงเล็กกน้อย เพื่อสะดวกในการระบายน้ำเวลาทำความสะอาดพื้นหรือล้างพื้น  

วัสดุท็อปครัว

การที่จะเลือกวัสดุท็อปครัว ขึ้นอยู่กับสีสันหรือลวดลายที่ควรเลือกมาให้เข้ากับตัวบ้าน ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป

หินสังเคราะห์ Solid Surface
วัสดุยอดนิยม ผลิตมาเพื่อทดแทนหินจริง ข้อดีมากกว่าหินธรรมชาติ ทั้งความแข็งแรง ผิวหน้าที่ทนทาน สีสันที่ไม่ผิดเพี้ยนในแต่ละแผ่น ไม่มีรูพรุนจึงหมดปัญหาเรื่องความชื้น และเชื้อรา

ลามิเนต Laminate
ทำจากกระดาษเคลือบเมลานีน นำมาอัดเข้ากันหลาย ๆ ชั้น แข็งแรง มีสีสันและลวดลายให้เลือกหลากหลาย ทั้งลายธรรมชาติหรือจะเลือกสีสด ๆ ก็ทำได้ ราคาถูก ทำความสะอาดง่าย สามารถใช้แทนเขียงได้เลยในบางยี่ห้อ

หินแกรนิต Granite
แข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี สวยงามตามเส้นแร่ของธรรมชาติ ทนความร้อน ทำความสะอาดง่าย แต่อาจต้องระวังเรื่องของน้ำหนัก โครงสร้างของครัวต้องแข็งแรง

ปูนเปลือย
ดิบ เท่ แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับครัวงานหนัก และยังสามารถโชว์ความเท่ของวัสดุได้อีกด้วย สามารถก่อขึ้นรูปทรงที่ต้องการได้ ป้องกันน้ำและความชื้นได้ดี แต่หากฉาบไม่ดีก็อาจแตกร้าวได้

ไม้
สวยงามตามสไตล์ ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ คลาสสิกตลอดกาล เหมาะกับครัวโชว์มากกว่า ตอบโจทย์งานดีไซน์สำหรับ Wood lover แต่ต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน กลิ่น ความชื้น เชื้อรา เหมาะกับแพนทรี หรือไอส์แลนด์มากกว่า

สเตนเลส
ที่สุดของวัสดุสำหรับครัวงานหนักที่ต้องเจอทั้งความร้อน ความชื้น ทนด่างทนกรด สารเคมีต่าง ๆ ได้ ไม่ดูดซึมน้ำ ทำความสะอาดง่าย ทนทุกสภาพการใช้งานอย่างแท้จริง แต่อาจต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน เพราะเป็นรอยง่าย เรื่องความสวยงามอาจเป็นรองวัสดุอื่น ๆ

ท็อปเคาน์เตอร์ครัวควรมีความลึกอย่างน้อย 60 เซนติเมตร และสูงจากพื้น 90 – 105 เซนติเมตร ส่วนขอบควรลบมุมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน

เทรนด์แต่งครัวกำลังมา

เลือกสไตล์ที่ใช่ ให้เข้ากับบ้าน หรือไลฟ์สไตล์ของคุณ BuilderNews ขอแนะนำการแต่งครัวที่กำลังมาอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้อาจจะเลือกใช้เพียงบางส่วนก็ได้ ครัวโดนใจยังไงก็มีแต่ความสุข

ดำล้วน
สีสุดคลาสสิก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงดูดีอยู่ แต่ต้องแต่งให้ดูเรียบ ๆ เลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสีคนละโทน อาจใส่ความเป็นสเตนเลสได้ หินอ่อน หรือไม้ ก็ดูหรูหรา ดุดันเหมือนกัน

ตู้หน้าบานกระจก
เหมาะกับบ้านที่มีจานชามลวดลายสวย ๆ ไว้รับแขก ไว้โชว์แขกได้ เก็บจานได้แล้วยังเป็นตู้โชว์ในตัว นอกจากนี้ยังทำให้ครัวของคุณโปร่ง โล่งตา ดูไม่อึดอัด ทึบตันแน่นอน

คู่สี Two Tone
การดึงคู่สีเด่น ๆ มาใช้จะทำให้ห้องครัวของคุณ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป จะเป็นสีสันสดใสพาสเทลไปเลยก็ได้ หรือหากหลุดโทนจากบ้านไปนัก ก็ลองใช้วัสดุหลัก 2 ชนิดก็ได้ เช่นไม้กับปูน, ขาวกับดำ, เขียวกับหินอ่อน สนุกแน่นอน

สร้างลวดลายให้ผนัง
ลองหา Backsplash ติดบริเวณที่ทำอาหารดูนะ นอกจากจะป้องกันน้ำมันกระเด็นแล้ว ยังสร้างลวดลายสนุก ๆ ในพื้นที่ตรงนี้ได้อีกด้วย

และนี่คือข้อควรรู้หลัก ๆ ของการออกแบบครัว หากคุณอยากใช้พลังในการออกแบบเองก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ หากคุณไม่มั่นใจว่าออกแบบมาสวยหรือไม่ เราขอแนะนำให้ลองปรึกษากับสถาปนิกหรือนักออกแบบดีกว่า เขาจะแนะนำได้ดีที่สุด หากไม่ชอบตรงไหนก็ปรับแก้ได้ ขอให้สนุกกับการออกแบบ!

ที่มา:

https://www.baanlaesuan.com/146788/maintenance/kitchen-counter-top
https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/คิดจะต่อเติมครัวหลังบ้านต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง-23315
https://www.bnbhome.com/th/articles/finishes-in-the-kitchen

Previous articleระวังอันตราย! การใช้เครื่องมือผิดประเภทส่งผลร้ายแรงกว่าที่คุณคิด
Next article“สถาปนิก’66” กลับมาแล้ว! พร้อม line-up
ผู้แสดงสินค้าชุดแรก และไฮไลท์พิเศษที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
เจตน์สฤษฏิ์ อ้องแสนคำ
Content Writer ผู้คลั่งไคล้การเสพหนัง, แคมป์ปิ้ง และอ่านหนังสือ ที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงเข้าสู่วงการสถาปัตยกรรมเพื่อศึกษาและค้นหาแรงบันดาลใจ