Shanghai Smart Home Technology (SSHT) เป็นงานจัดแสดงที่เปิดตัวเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในอนาคต อาทิ smart home electronic appliances, the smart community, smart hotels, smart hardware, chips, Internet of Things (IoT), NarrowBand Internet of Things (NB-IoT), artificial intelligence (AI), robots, audio-visual (AV) integration และ home entertainment ซึ่งได้เปิดให้เข้าชมงานเมื่อวันที่ 5 – 7 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ณ Shanghai New International Expo Centre ในเมืองเซี่ยงไฮ้
งานนี้เป็นการร่วมมือกันของ China Smart Home Industry ซึ่งจัดตรงกันกับงาน Shanghai Intelligent Building Technology โดยจุดมุ่งหมายของงานนี้มิใช่แค่เพียงส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วน แต่ยังรวมไปถึงการผลักดันให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ
คุณ Lucia Wong รองผู้จัดการแห่งบริษัท Messe Frankfurt (Shanghai) เผยว่า “ผมขอขอบคุณโรงงานอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนที่คอยสนับสนุนเรามาเป็นเวลาหลายปี SSHT เราจะสาธิตการใช้งานของ smart home technologies and Building Internet of Things (BIoT) ภายใต้ 4 คอนเซ็ปต์ คือ 1 เทคโนโลยีนวัตกรรมที่เราจะยกให้เป็นสินค้าตัวใหม่ 2 เทคโนโลยีหลักที่จะช่วยแก้ปัญหาการกระจายตัวของระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 3 เทรนด์ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมเกิดการพัฒนาและเติบโตขึ้น และ 4 การเชื่อมต่อซึ่งจะทำให้เกิดการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในส่วนของรูปแบบการนำเสนอคอลั่มข้อมูลและการเปิดตัวสินค้าและเทคโนโลยีใหม่นั้นจะช่วยให้ผู้ชมงานได้รับข้อมูลการพัฒนาสินค้าที่เป็นปัจจุบันทันด่วนมากที่สุดรวมไปถึงยังช่วยสร้างเครือข่ายและเปิดโอกาศทางธุรกิจให้แก่ทุกคนมากยิ่งขึ้น เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ SSHT สามารถเติบโตเข้าไปมีอิทธิพลต่อการจัดงานอุตสาหกรรมได้มาก”
สี่กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมายทางการตลาดในอนาคต ได้แก่
นวัตกรรม
นวัตกรรมเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาสินค้า บริษัทนักสร้างสรรค์รวมไปถึงนักพัฒนาสินค้าที่ทำงานร่วมกับพวกเขาต่างกำลังมองหาแพล็ตฟอร์มที่สามารถนำเสนอไอเดียและนวัตกรรมใหม่ ๆ ของพวกเขาได้ SSHT จึงได้รวบรวมผู้ที่มีชื่อเสียงภายในประเทศและแบรนด์โด่งดังต่าง ๆ มาไว้เพื่อให้พวกเขาได้นำสินค้าและเทนโนโลยีรุ่นใหม่มานำเสนอให้แก่ผู้ชมทุกท่าน ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายแบรนด์ที่ยืนยันจะเข้าร่วมงานแล้วไม่ว่าจะเป็น ABB, ANJUBAO, Atte, AVE-Leelen, backaudio, Baiwei, Cinemaster, Crodigy, Dnake, Dorlink, Eastsoft, Fantem, Haier, HDL, HEKR, Hi-Champ, HUTLON, konke, Moorgen, Ohosure, RAYING, Rici, SONOS, Tijio, UIOT, Wensi และ Wise คอนเซ็ปต์นี้ยังนำไปใช้กับงาน ‘New Technology and Product Launch’ ที่เป็นธีมเดียวกันกับ Smart Home Inspires New Ways of Living ที่ผู้เข้าร่วมจะได้อวดโฉมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เหนือความคาดหมายได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น smart speakers, smart voicebox, ประตู และลูกบิดประตูอัจฉริยะ
เทคโนโลยีหลัก
SSHT ได้มอบแพล็ตฟอร์มแบบพิเศษที่รวบรวมเทคโนโลยีหลัก เช่น chips, cloud computing, big data, artificial intelligence, the internet, และ IoT ซึ่งจะมีการนำสเนอในงานเพื่อเป็นการขยายธุรกิจและเจาะกลุ่มตลาด นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับไอเทมสำคัญที่จัดรวมอยู่ในงานนี้ด้วย
เทรนด์
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาดก่อให้เกิดความใคร่กระหายต่อผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมที่ต้องค้นหาเทรนด์ใหม่มาแรงที่สุด นักบรรยายทั้งในและต่างประเทศต่างได้รับเชิญให้มาเข้าร่วมงานสัมนาเพื่อที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อกระตุ้นความคิด อาทิ หัวข้อ NB-IoT and Smart Home, The Impact of Internet of Things (IoT) on Intelligent Buildings and Multi-Dwelling Unit Buildings, China Smart Home Industry Alliance (CSHIA) Eastern China Summit — The Information Security of Smart Homes, Tencent Qrobot (Second Generation) Intelligent Robot Strategic Launch and Industry Application, และหัวข้อ New Thinking on Intelligent Hotels – Increase in service value when hotels become intelligent เป็นต้น
และสุดท้ายคือ การเชื่อมต่อ
คอนเซ็ปต์ของการเชื่อมต่อเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับอุตสาหกรรม smart home เพราะระบบทั้งหมดประกอบขึ้นมาจากเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งจะมาองค์กรมาตราฐานสากล เช่น KNX, Association and LonMark International and wireless communication companies including Zigbee Alliance, และ EnOcean Alliance and Wi-Fi
Alliance จะได้รับการนำเสนอในงานนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ งาน SIBT และงาน SSHT จะจัดขึ้นพร้อมกันเพื่อโชว์เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะและโซลูชั่นสำหรับอาคารประหยัดพลังงาน รวมไปถึงสมาร์ท คอมมิวนิตี้และสมาร์ทโฮเตล ซึ่งทั้งสองงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 18 – 23 มีนาคม 2061 ในแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และยังมีแผนขยายตลาดไปในประเทศอาร์เจนติน่า อินเดีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกันอีกด้วย
