ปัจจุบันการลงทุนภาคก่อสร้างของไทยมีมูลค่าสูงมากกว่าปีละ 1,000,000 ล้านบาท และมีผู้รับเหมาก่อสร้างที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไทยมากกว่า 80,000 ราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและย่อมหรือ SMEs และมีการจ้างงานประมาณ 2.4 ล้านคน โดยไม่รวมภาคการผลิตและการขนส่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 165 ราย ที่เหลือเป็น SMEs ซึ่งในขณะที่มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมก่อสร้างได้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี แต่ศักยภาพของผู้รับเหมาไทยกลับไม่ได้มีการพัฒนาหรือยกระดับมากนัก ทั้งๆ ที่การก่อสร้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชนนั้นถือเป็นดัชนีบ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ผู้รับเหมาที่มีพัฒนาการจะปรับเปลี่ยนสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจได้มากขึ้น
โดยภาพรวมแล้วผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีระดับการศึกษาและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ หรือเป็นผู้รับเหมาที่มีขนาดธุรกิจหรือลักษณะการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน ย่อมมีปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีความต้องการแนวทางการพัฒนาธุรกิจรับเหมาที่แตกต่างกัน
อาจกล่าวได้ว่า ภายใต้ความหลากหลายของการเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยในที่นี้ขอกล่าวเฉพาะเจาะจงที่ผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งประสบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานที่แตกต่างกันไป ดังจะเห็นได้ว่าผู้รับเหมาที่มีพัฒนาการจะสามารถปรับเปลี่ยนและสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจได้มากขึ้นเพราะสามารถจัดการกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
หลักการ 5M
พื้นฐานดีๆ ที่ผู้รับเหมารายย่อยต้องมี
สิ่งที่จะทำให้ผู้รับเหมาสามารถดำเนินการจัดการงานก่อสร้างได้ดี ประกอบด้วยทรัพยากรพื้นฐาน 5M ได้แก่
  1. MAN ผู้รับเหมาต้องบุคลากรมีปริมาณเพียงพอเหมาะสมกับงาน และต้องเป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ มีวินัยและความรับผิดชอบต่องาน เพราะบุคคลากรที่มีศักยภาพย่อมส่งผลให้การดำเนินงานก่อสร้างมีประสิทธิภาพ
  2. MATERIAL ผู้รับเหมาต้องวางแผนการใช้วัสดุก่อสร้าง และควบคุมการใช้วัสดุก่อสร้างให้เหมาะสมกับความก้าวหน้าของงาน อีกทั้งต้องสามารถบริหารความเสี่ยงจากการปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างและวัสดุขาดแคลน
  3. MONEY ว่าด้วยเรื่องเงินทุนของผู้รับเหมา ทั้งในส่วนของทุนของผู้รับเหมาเงินงวดจากการทำงานและเงินกู้ยืมต่างๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งโดยทั่วไปการจ่ายเงินตามงวดในสัญญา เจ้าของงานจะจ่ายน้อยกว่ามูลค่าที่ผู้รับเหมาลงทุนไปในแต่ละงวดงาน เพื่อลดความเสี่ยงจากการทิ้งงาน หากผู้รับเหมาไม่มีทุนเพียงพอ อาจเสนอโครงการขอรับการสนับสนุนทางการเงิน จากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินจะกำหนดเงื่อนไขและรูปแบบของสินเชื่อให้สอดคล้องกับลักษณะและข้อกำหนดของสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง
  4. MACHINE หมายถึงเครื่องจักร เครื่องทุ่นแรง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่นำมาใช้ในงานก่อสร้างเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ต่างๆ อาทิ ระยะเวลาการทำงานที่จำกัด งานที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง หรือเพื่อประหยัดต้นทุน รวมถึงภาพพจน์ความน่าเชื่อน่าถือของผู้รับเหมาในทัศนะของเจ้าของงานด้วย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ผู้รับเหมาต้องจัดหาเครื่องจักรที่เหมาะสมกับงาน ตลอดจนคัดเลือกผู้ควบคุมงาน ที่มีความชำนาญเฉพาะมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องยึดถือหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญด้วย
  5. MANAGEMENT การบริหารและควบคุมงานก่อสร้างในทุกขั้นตอน ซึ่งผู้รับเหมาจะต้องรับผิดชอบในการวางแผนงาน และกำกับดูแลให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ถูกต้องตามรูปแบบได้มาตรฐานตามหลักวิชาการตลอดจนควบคุมการใช้ทรัพยากรและเวลาให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าของโครงการได้รับผลงานการก่อสร้างตรงตามรูปแบบที่ต้องการอย่างมีมาตรฐาน ค่าใช้จ่ายอยู่ในงบประมาณที่กำหนด แล้วเสร็จทันตามแผนงานที่วางไว้

ผู้รับเหมาก่อสร้างยุคใหม่ต้องปรับตัวและรับมืออย่างไร?
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพของผู้รับเหมา โดยเฉพาะผู้รับเหมารายย่อยให้สามารถดำเนินงานได้อย่างเข้มแข็ง ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของโลกธุรกิจในยุคที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพเป็นอาวุธที่ผู้รับเหมารายย่อย หรือแม้กระทั่งผู้รับเหมารายใหญ่ก็ยังต้องปรับตัว เรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ผู้รับเหมาก่อสร้างยุคใหม่นี้ต้องเตรียมความและรับมือได้อย่างเท่าทัน ก็คือ การเรียนรู้เรื่องนวัตกรรมการก่อสร้างใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาการก่อสร้างให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และประหยัคค่าจ้างแรงงาน ถ่ายทอดความรู้แก่แรงงานและพัฒนาธุรกิจให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
การสร้างจุดแข็งของตนให้แข็งแกร่ง แล้วขยายเพิ่มเติมบริการใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าเป็นการเพิ่มจุดแข็งให้มากขึ้น เช่น ผู้รับเหมาอาจจะต้องสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่เกี่ยวกับกิจการรับเหมาก่อสร้าง การจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งอาจรวมไปถึงการร่วมลงทุนกับกลุ่มก่อสร้างอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้สามารถเข้าประกวดราคาในโครงการใหญ่ได้ เช่น โครงการสร้างถนนหรือทางรถไฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้รับเหมายุคใหม่ควรจะมีความชำนาญงานในการก่อสร้าง ที่สามารถรองรับงานโครงการต่างๆ ของภาครัฐได้ เช่น ก่อสร้าง/ซ่อมบำรุงถนนและสะพานข้ามทาง เป็นต้น เพราะนอกจากเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับงานแล้ว ยังอาจสามารถประยุกต์วิธีก่อสร้างเพิ่มความชำนาญให้มากขึ้นด้วย อีกทั้งยุคนี้เป็นยุคของการบริหาร PROCESS ผู้รับเหมาจึงต้องดำเนินการโดยมุ่งลดขั้นตอนการทำงาน หาวิธีเพิ่มกำไรจากส่วนนี้ เช่น ต้นทุนเท่าเดิม แต่ใช้เวลาน้อยลง ใช้เวลาเท่าเดิม แต่สินค้ามีคุณภาพมากขึ้น เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ควรต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรให้มากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวบุคลากรให้มากขึ้น ยอมจ้างคนเก่งด้วยราคาแพง สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ให้ความเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน

ทั้งหมดนี้ เป็นการสะท้อนภาพผู้รับเหมาก่อสร้างในประเทศได้ค่อนข้างชัดเจน และเชื่อว่าแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้รับเหมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้รับเหมารายย่อย เพราะหากผู้รับเหมามีศักยภาพ สามารถแข่งขันได้อย่างแท้จริง ย่อมทำให้การดำเนินงานก่อสร้างของผู้รับเหมารายย่อยไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไป และเชื่อว่า หลายต่อหลายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะสามารถปรับตัวเพื่อให้เท่าทันต่อโลกธุรกิจที่กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างเข้มแข็ง
อ้างอิง
นิตยสารข่าวช่าง Contractors’
นิตยสารของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

HTTPS://BIT.LY/2WTSAQF
HTTPS://BIT.LY/2MDWRMM
HTTPS://BIT.LY/2MFKBUM
HTTPS://BIT.LY/2POIU7P
ขอบคุณรูปภาพ
https://www.freepik.com/free-photo/hand-over-construction-plans-with-yellow-helmet-and-drawing-tool_1013621.htm
https://www.freepik.com/free-photo/construction-concept-image-helmet-rolled-blueprints-on-wooden-boards-in-retro-style_1203649.htm
https://www.freepik.com/free-photo/helmet-and-drafting-supplies-on-blueprints_2428276.htm
Previous articleเจาะลึก…ปัญหาแรงงานก่อสร้างขาดแคลน
Next articleสภาสถาปนิก จับมือ อารยะ เอ็กซ์โป เปิดฉากจัดงาน “สถาปัตย์ ’19” พบสถาปนิกครบทุกสาขา พร้อมอัพเดทเทรนด์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจากแบรนด์ดังทั่วโลก