เปิดตัวมาเตอร์แพลนโครงการ One Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ชูมาตรฐานการออกแบบ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตในสมาร์ท ซิตี้

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา One Bangkok เผยมาสเตอร์แพลนโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นทางการ ณ เดอะ พรีลูด วัน แบงค็อก โดยโครงการดังกล่าวเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า “วัน แบงค็อก จะสร้างนิยามใหม่และพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ความมุ่งมั่นของเราคือการเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดหลักความยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และผสานเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างสมบูรณ์ เราเชื่อมั่นว่า One Bangkok จะมอบสิ่งที่คู่ควรกับกรุงเทพฯ พร้อมชูให้ประเทศไทยโดดเด่นเป็นสง่าในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียนต่อไป”

ซ้าย – คุณซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร One Bangkok
ขวา – คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด

โดยมาสเตอร์แพลนแบบมิกส์ยูสของโคงการ One Bangkok ถูกออกแบบเพื่อให้เป็นเมืองแห่งความครบครันเพียบพร้อมด้วยอาคารสีเขียว ใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งพื้นที่ในโครงการสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องตามพฤติกรรมของผู้บริโภคสมัยใหม่และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

สำหรับมาสเตอร์แพลนประกอบด้วย 4 อาณาบริเวณที่เชื่อมต่อถึงกัน โดยมีใจกลางของโครงการอยู่ที่ Civic Plaza พื้นที่สันทนาการขนาด 10,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยพื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์บริเวณส่วนล่างของตึก ส่วนพื้นที่สำนักงานและพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยจะอยู่ส่วนบนของตึก

คุณซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร One Bangkok กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการยกระดับสถานะของกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่จะได้รับการยอมรับในระดับโลกจากมุมมองที่ได้เรียนรู้ผ่านย่านสำคัญ ๆ ของมหานครทั่วโลก ทำให้เราตระหนักว่าการสร้างและผสานพื้นที่ของ One Bangkok ตามคอนเซปท์มิกซ์ยูสนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยพลังและไม่มีวันหลับใหล ด้วยขนาดที่ใหญ่ของโครงการ เราจึงวางแผนการใช้งานพื้นที่ไว้อย่างหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และที่พักอาศัย พร้อมด้วยพื้นที่ส่งเสริมการศึกษา การพักผ่อน สุขภาพ รวมถึงพื้นที่สำหรับศิลปะและวัฒนธรรม มีพื้นที่สาธารณะซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามาได้ โดยเรามุ่งหวังว่าการผสานพื้นที่ให้หลากหลายเช่นนี้จะสร้างแลนด์มาร์คที่สมบูรณ์แบบ เปี่ยมด้วยศักยภาพในการดึงดูดองค์กรชั้นนำและเป็นสถานที่ยอดปราถนาของนักท่องเที่ยวและคนไทยอย่างแน่นอน”

ในส่วนของความคืบหน้าของการก่อสร้าง ปัจจุบันงานเสาเข็มของโครงการได้สำเร็จลุล่วงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดเฟสแรกในปี พ.ศ.2566 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี พ.ศ.2569

Previous articleICE BABIES โปรเจกต์ออกแบบเรือดำน้ำซ่อมน้ำแข็งละลายในอาร์กติก
Next articleดีไซน์วิวพาโนรามาส่วนตัวได้ ด้วยนวัตกรรมประตู หน้าต่าง จาก TOSTEM ในงาน ACT Forum’19