สนิมและเหล็กเป็นของคู่กันที่หากไม่ทำการป้องกันหรือแก้ไข ปัญหาที่ตามมาคือการผุกร่อนของเหล็ก ซึ่งหากเกิดสนิมที่ตัวหลังคาอาจเป็นรูรั่วและอาจเกิดปัญหาได้ หรือบริเวณโครงสร้างหรือโครงหลังคาที่ต้องรับน้ำหนักเยอะ ๆ คงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

และปัญหาเหล่านี้ได้ส่งเสียงไปถึง “พีโอเอฟ แปซิฟิค” บริษัทที่เข้าใจถึงความต้องการและปัญหาที่ผู้บริโภคพบเจอ นำไปสู่การพัฒนาโซลูชันที่จะทำให้คุณลืมหลังคาแบบเดิมไปได้เลย และในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ “พีโอเอฟ แปซิฟิค” ถึงจุดเริ่มต้นและการเข้ามาพัฒนาหลังคาที่ไร้สนิมเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ลดต้นทุนในส่วนของการบำรุงรักษา และใช้งานผลิตภัณฑ์นี้อย่างปลอดภัยและยาวนาน

จากพลาสติกสู่อลูมิเนียมผสมโพลีเมอร์

บริษัท พีโอเอฟ แปซิฟิค จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 โดยทีมผู้บริหารที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมพลาสติกมากกว่า 20 ปี เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตฟิล์มหดโพลีโอเลฟินส์รายแรกในประเทศไทย ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ฟิล์มหดของบริษัทฯ มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้บริการออกแบบ ให้คำแนะนำและจัดจำหน่ายเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับงานบรรจุภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม

ในปี 2548 กลุ่มธุรกิจบริษัท พีโอเอฟ แปซิฟิค ได้ขยายธุรกิจไปสู่การผลิตแผ่นโพลีคาร์บอเนตภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยโอเรียลเต็ดโปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผ่นหลังคาโพลีคาร์บอเนตรายแรกในประเทศไทย และในปี 2560 บริษัท พีโอเอฟ แปซิฟิค ได้เพิ่มสายการผลิตแผ่นลูกฟูกโพลีโพรพิลีนเพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า

ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ล่าสุดกลุ่มธุรกิจบริษัทพีโอเอฟแปซิฟิคได้พัฒนานวัตกรรมการผลิตแผ่นหลังคา “Hybrid Roof” โดยใช้วัสดุอลูมิเนียมร่วมกับโพลีเมอร์เพื่อให้ได้คุณสมบัติหลังคาที่น้ำหนักเบา ทนทาน ไม่เป็นสนิม และมีฉนวนในตัว ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาของวัสดุมุงหลังคาแบบเดิม รวมทั้งยังได้พัฒนาแผ่นไม้สังเคราะห์ “Hybrid Board” ที่ผลิตจากวัสดุโพลีเมอร์ที่มีความแข็งแรง ไม่บวมน้ำ ทนทานต่อสภาพการใช้งาน เพื่อใช้ทดแทนไม้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ไม้แบบก่อสร้าง ไม้พื้นและผนัง ไม้เฟอร์นิเจอร์

เข้าใจปัญหา พัฒนาอย่างตรงจุด เพื่อสุดยอดผลิตภัณฑ์

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เริ่มต้นจากความต้องการของผู้บริโภคที่พบปัญหาจากวัสดุมุงหลังคาประเภทต่างๆ ได้แก่ หลังคา metal sheet ที่มีปัญหาเรื่องความร้อน มีเสียงดังเวลาฝนตก และเป็นสนิมได้ง่าย หลังคากระเบื้องที่มีน้ำหนักมาก แตกหักได้ง่าย และยุ่งยากในการติดตั้ง จึงได้พัฒนาหลังคาไฮบริดมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านั้น โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมงานในกลุ่มบริษัทพีโอเอฟฯ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจจากต่างประเทศในการพัฒนาวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่เป็นนวัตกรรมซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว

นักออกแบบหรือสถาปนิกยังมีบทบาทสำคัญสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัสดุมุงหลังคา เนื่องจากเป็นผู้ตัดสินใจเลือกใช้วัสดุเหล่านั้นในการออกแบบอาคาร รวมทั้งสามารถแนะนำให้เจ้าของโครงการได้รู้จักผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อใช้ตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละโครงการได้ ดังนั้นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ของเราจึงต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและทิศทางในการออกแบบอาคารของสถาปนิก ทั้งในเรื่องของรูปแบบของอาคาร โทนสีที่เลือกใช้ และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้

หลังจากการออกแบบแล้วขั้นตอนถัดไปสำหรับงานโครงการทั่วไปคือการก่อสร้าง ซึ่งเรามีการทำงานร่วมกับผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อให้ได้ทราบข้อมูลในการติดตั้งและการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมีโอกาสได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับงานก่อสร้าง อย่าง แผ่นไฮบริดบอร์ด (Hybrid Board) หรือแผ่นไม้สังเคราะห์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ทดแทนไม้อัดสำหรับเป็นแบบหล่อคอนกรีต เนื่องจากไม้แบบทั่วไปสามารถใช้ซ้ำได้เพียงไม่กี่ครั้งก็จะชำรุดเสียหาย หรือถ้าโดนน้ำก็จะบวมจนไม่สามารถนำมาใช้ต่อได้ แผ่นไฮบริดบอร์ดจึงถูกออกแบบให้ใช้ซ้ำได้มากกว่าไม้อัดหลายเท่าตัว ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนของผู้รับเหมาก่อสร้างได้

หลังคาและบอร์ดไฮบริด ผลิตภัณฑ์เรือธงคุณสมบัติล้ำพร้อมยลโฉมในงาน

หลังคาไฮบริด (Hybrid Roof)

ผลิตภัณฑ์มุงหลังคาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาและข้อบกพร่องของหลังคาในรูปแบบอื่น ๆ ให้หมดไป ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตแบบพิเศษ โดยผสมผสานคุณสมบัติเด่นของวัสดุหลายชนิด ได้แก่ ชั้นบนเป็นอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา สะท้อนความร้อนได้ดี ไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน ชั้นกลางเป็นโพลีเมอร์ที่มีฟองอากาศขนาดเล็กทำหน้าที่เป็นฉนวนกันเสียงและความร้อน ชั้นล่างเป็นโพลีเมอร์ที่มีความแข็งแรงและเป็นฉนวนเพิ่มอีกหนึ่งชั้น ทำให้ได้วัสดุมุงหลังคาที่มีน้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลดเสียงดังเมื่อเกิดฝนตก คุ้มค่าด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนาน สวยงาม เหมาะกับอาคารทุกรูปแบบ

หลังคาไฮบริดจะช่วยลดต้นทุนในการเปลี่ยนหลังคาเดิมที่เป็นสนิม ด้วยคุณสมบัติของวัสดุ ที่ไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน ลดต้นทุนในการติดฉนวน รวมทั้งสามารถประหยัดโครงสร้างของอาคารลงได้จากน้ำหนักของหลังคาที่เบากว่าวัสดุชนิดอื่น

Hybrid Board

ผลิตภัณฑ์แผ่นไม้อัดสังเคราะห์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อทดแทนการใช้ไม้อัดในทุกรูปแบบ รวมถึงไม้แบบชนิดต่าง ๆ ในงานก่อสร้าง โดย ไฮบริดบอร์ด มีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าไม้อัดในแบบเดิม ทั้งจำนวนการใช้งานซ้ำได้มากกว่าไม้อัดทั่วไป ความแข็งแรงทนทานและมีความยืดหยุ่น กันน้ำได้ 100% หมดปัญหาเรื่องการบวมน้ำและการแยกชั้นของไม้อัด ผิวหน้าเรียบทำให้ถอดแบบง่ายโดยไม่ต้องทาน้ำยาเคลือบผิวใด ๆ ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการทำงาน สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ

ไฮบริดบอร์ดสามารถลดต้นทุนในการใช้ไม้อัดเนื่องจากไฮบริดบอร์ดสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง และลดการใช้น้ำยาทาแบบด้วยคุณสมบัติของผิวที่เรียบและคงทนกว่าไม้อัดทั่วไป

บริษัทฯ ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการออกแบบอาคารและงานก่อสร้าง เป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้รู้จักผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มบริษัทพีโอเอฟเป็นผู้ผลิตรายแรกและเพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งเรามั่นใจว่าผู้เข้าชมงานจะได้มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรมการออกแบบและก่อสร้างได้อย่างแน่นอน

แล้วมาพบกันหลังคาไฮบริดจาก พีโอเอฟ แปซิฟิค พร้อมรับคำปรึกษาจากทีมงานมืออาชีพสำหรับผู้สนใจได้ที่บูธ B202/6 ในงาน ACT FORUM ’20 Design + Built ระหว่างวันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2563 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี

ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้แล้วที่ http://actforum.prereg.info/form.asp?lang=TH

 

#งานเดียวในปีนี้จะพลาดได้ไง

#ACTFORUM #ACTFORUM20 #ACTFORUM2020

#งานสภาสถาปนิก #งานสภาสถาปนิก20 #DesignBuilt #Architect #Architecture

#สถาปนิกปันสุข #SharingHappiness

Previous articleมว. เปิดบริการสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็ว ม.ค. 64! สนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนน
Next articleทช.เปิดไฟประดับสะพานข้ามเจ้าพระยา 13 แห่ง ชวนร่วมชมทัศนียภาพและสืบสานงานลอยกระทง 31 ต.ค.นี้
เจตน์สฤษฏิ์ อ้องแสนคำ
Content Writer ผู้คลั่งไคล้การเสพหนัง, แคมป์ปิ้ง และอ่านหนังสือ ที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงเข้าสู่วงการสถาปัตยกรรมเพื่อศึกษาและค้นหาแรงบันดาลใจ