ต้องยอมรับกันว่า โลกของวัสดุก่อสร้างและตกแต่งมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มีนวัตกรรมวัสดุ ผุดขึ้นมาใหม่มากมาย เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โอกาสที่เราจะได้ใช้วัสดุใหม่ ๆ ล้ำ ๆ จึงมาเร็วกว่าที่คาดคิด มีวัสดุหลายตัวที่มีความน่าสนใจ และน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ลองมาติดตามอัพเดทกัน

Beger Ceramic Clean ที่สุดเทคโนโลยีสีไร้คราบปลอดเชื้อ

ด้วยนโยบายการดำเนินธุรกิจของสีเบเยอร์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และในวันนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Eco-Wellness Innovation” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน ส่งผลให้ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของสีเบเยอร์ มีความโดดเด่น และแตกต่างอย่างยั่งยืน

และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอกย้ำความเป็นเบเยอร์ คือ สีเบเยอร์ เซรามิก คลีน สีน้ำอะคริลิก (กึ่งเงา) เป็นสีน้ำอะคริลิกเกรดสูง ชนิดทาภายใน ผลิตจากอะคริลิกเรซิน 100 % ผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาขึ้นจาก ไมโครสเฟียร์ เซรามิก (Super Washable Microsphere Ceramic Technology) ที่ทำปฏิกริยาทางเคมีกับพื้นผิวผนังปูนด้วยกระบวนการ ครอส ลิงค์ (Cross Link Reaction) ช่วยให้ฟิล์มสียึดเกาะเข้ากับผิวผนังปูนได้อย่างดีเยี่ยม เม็ดสีเซรามิก ทรงกลมขนาดเล็กที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบยังช่วยให้ผิวฟิล์มเรียบเนียน และแข็งแกร่งดุจดังผิวกระเบื้องเซรามิก ไม่จับฝุ่น และสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เช็ดเบา ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำหรือสบู่ โดยไม่ต้องออกแรงขัดถู

3

Extra Durable Film ฟิล์มสีทนทานพิเศษ ทนทานกว่าผิวฟิล์มสีทั่วไปถึง 2 เท่า ทนทานต่อการเช็ดล้างทำความสะอาดได้มากกว่าสีภายในถึงทั่วไปถึง 30 เท่า และผ่านการทดสอบมาตรฐานการขัดถูได้มากเกินกว่า 20,000 รอบ ช่วยปกป้องผิวผนังอาคารและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของประจุแร่เงิน (Silver Ion Technilogy) มีคุณสมบัติปกป้องผิวฟิล์มจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สีเบเยอร์ เซรามิก คลีน จึงเหมาะกับห้องที่ต้องการความสะอาดมีสุขอนามัยและมีการเช็ดล้างอยู่เสมอ

ซิลเวอร์ ไอออน (Ag+, Silver Ion) ทำหน้าที่เป็นกลไกในการกำจัดแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของปัญหากลิ่นอับชื้น ป้องกันกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ (แบคทีเรียจะเข้าย่อยสลายไขมันให้กลายเป็นซัลเฟอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดกลิ่นอับชื้น)

สีเบเยอร์ เซรามิก คลีน จึงเหมาะที่จะใช้งานกับผนังภายในอาคาร โถงทางเดิน หรือห้องที่ต้องคำนึงถึงสุขอนามัยเป็นพิเศษ สามารถใช้กับพื้นผิวคอนกรีต ซีเมนต์ ปูนฉาบ อิฐบล็อก และกระเบื้องแผ่นเรียบได้

Zillion ‘Green Wall System’ ทางเลือกของการปลูกพืชในอาคาร

สำหรับผลิตภัณฑ์ Green Wall System ของ Zillion มีสินค้าที่น่าสนใจให้เลือกใช้หลากหลาย อาทิ PLANTERCELL 75 ซึ่งเป็นระบบการจัดสวนในแนวตั้งแบบ Module ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน ทนต่อรังสียูวี และได้รับการรับรองฉลากเขียวจากประเทศสิงค์โปร์ เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาที่ได้รับการออกแบบมา
ให้ง่ายต่อการติดตั้ง ช่วยให้นักออกแบบสร้างสรรค์งานที่โดดเด่นและสวยงามด้วยพืชพันธุ์ที่มีความหลากหลาย จึงเหมาะที่จะใช้เป็นผนังอาคารทั้งภายในและภายนอก, Screen Walls, Parapet Walls, Garden Feature, บริเวณทางเดินและรั้วรอบอาคาร, การปลูกสวนกล้วยไม้ในแนวตั้ง หรือราวบันไดและระเบียงเนื่องจากมีน้ำหนักเบาและทนทาน ติดตั้งและรื้อถอนง่าย เหมาะกับพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย สามารถเปลี่ยนต้นไม้ได้ง่าย ราคาไม่แพง และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วย

reference2D60f8cdc1ada7c7d4a361510c2151a214

PLANTERCEL H2O-R (Water Retention) เป็นระบบการจัดสวนแนวตั้งแบบแผ่นประกอบด้วยแผ่นพีวีซีน้ำหนักเบา ที่มีความแข็งแรง โครงสร้างภายในประกอบด้วยแผ่นพีวีซีน้ำหนักเบา ชั้นโฟมไฮโดรฟิลลิค ที่มีความสามารถในการกักเก็บน้ำ แผ่นใยสังเคราะห์ ชั้นกากใยมะพร้าว และแผ่นใยตาข่าย HDPE โดยเป็นการพัฒนาการออกแบบวัสดุให้มีความบางและสามารถนำไปออกแบบได้หลากหลาย ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร หรือเป็นผนัง Screen ผนัง Parapet หรือใช้เป็นผนังเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ โดยไม่จำเป็นต้องอนุบาลต้นไม้ก่อน และสามารถเลือกใช้พันธุ์ที่จะนำมาประดับตกแต่งไม้ได้หลากหลาย สามารถเปลี่ยนต้นไม้ได้ง่ายและมีความคุ้มค่าอย่างยิ่ง

PLANTERCELL 125 เป็นวัสดุจัดสวนแนวตั้งแบบ Tray ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน (Recycled Polypropylene) ทนต่อรังสียูวี มีน้ำหนักเบาและมีความทนทานสูง ออกแบบให้มีความบาง สามารถปลูกต้นไม้ได้หลากหลายพันธุ์ เหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการปรับปรุงและโครงการใหม่ โดยไม่ต้องอนุบาลต้นไม้ก่อนการติดตั้ง ช่วยลดปริมาณการให้น้ำและการเปลี่ยนต้นไม้ ง่ายต่อการแทนที่ระหว่างการดูแลรักษา มีจุดกักเก็บน้ำโดยสามารถเก็บน้ำได้ถึง 2.4 ลิตร และมีจุดระบายน้ำประมาณ 3 จุด บริเวณก้นกระถาง ช่วยให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ

PLANTERCELL 170 เป็นวัสดุสำหรับสวนแนวตั้งชนิดกระถาง ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน (Recycled Polypropylene) ทนต่อรังสียูวี ได้รับการรับรองฉลากเขียวจากประเทศสิงคโปร์ มีน้ำหนักเบาและมีความทนทานสูง นอกจากนี้ยังติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการซ่อมแซมโครงสร้างและโครงการใหม่ โดยไม่ต้องอนุบาลต้นไม้ก่อนการติดตั้ง ช่วยลดปริมาณการให้น้ำและการเปลี่ยนต้นไม้ ง่ายต่อการแทนที่ระหว่างการดูแลรักษา สามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 2.4 ลิตร โดยมีรูสำหรับเก็บน้ำและมีช่องระบายน้ำเพื่อให้น้ำไหลออก เหมาะที่จะใช้กับงานผนังภายนอกและภายใน พื้นที่สวน ทางเดิน หรือใช้เป็นกำแพงกั้นเสียง หรือจะใช้เป็นพื้นที่ปลูกพืชผักสมุนไพรก็ได้

ทีนี้ลองไปดูผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Green Roof System กันบ้าง เริ่มจาก PLANTERCELL DC30 เป็นโมดูล Drainage คุณภาพสูง แข็งแรงทนทานมาก ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน (UV-Stabilised Recycled Polypropylene) และได้รับการรับรองฉลากเขียวจากประเทศสิงคโปร์ ตัวแผงมีความแข็งแรงสูงเพื่อรองรับน้ำหนักของ
Planting Media, พืชทางเท้า (Pedestrian Load) ความบางของโครงสร้างช่วยแทนที่ชั้นดิน และนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันระบบกันซึมข้างใต้ได้ด้วย เหมาะที่จะใช้ในงานภูมิทัศน์ กระบะต้นไม้ ทางเดินเท้า ทางรถวิ่ง ลานจอดรถ สนามกอล์ฟ สนามกีฬาสวนสาธารณะ อุโมงค์ ทางรถไฟ และสนามบิน

8

PLANTERCELL 30P เป็นวัสดุสำหรับสวนดาดฟ้า ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลและได้รับฉลากเขียวจากประเทศสิงคโปร์ มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่น โดยมีจุดกักเก็บน้ำเล็ก ๆ และจุดรูระบายน้ำออก ตัวแผงมีความแข็งแรงสูงเพื่อรองรับนำ้หนักของ Planting media, พืชทางเท้า (Pedestrian Load) เหมาะกับโครงการที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซม หรือโครงการใหม่ ติดตั้งและถอนออกง่าย โดยไม่จำเป็นต้องอนุบาลต้นไม้ก่อน การออกแบบเป็นแบบบาง สามารถเลือกพันธุ์ไม้ได้หลากหลาย สามารถโชว์ต้นไม้ได้สองด้าน เอาต้นไม้มาแทนที่ง่ายระหว่างการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงต้นไม้ ประหยัด ลดความถี่ในการให้น้ำนำกลับมาใช้ได้ใหม่

PLANTERCELL 50 เป็นวัสดุที่ใช้กับสวนดาดฟ้า ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน (Recycled Polypropylene) ได้รับการรับรองฉลากเขียวจากประเทศสิงคโปร์ มีน้ำหนักเบา ตัวแผ่นสามารถเชื่อมต่อกันได้โดยการซ้อนทับของจุดกักเก็บน้ำอย่างน้อย 1 แถว ลักษณะของแผ่นจะมีความยืดหยุ่น รองรับน้ำหนักของ Planting media ได้เป็นอย่างดี มีจุดเก็บน้ำซึ่งบรรจุน้ำได้ 4.5 ลิตร ต่อโมดูล และสามารถวางซ้อนกันได้ทำให้ประหยัดพื้นที่ ง่ายต่อการ
ตัดและสามารถลงรอยกับมุมหรือรูปทรงต่างๆ ได้ ช่วยให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ดี ลดความถี่ในการให้น้ำกับพืช ยืดหยุ่นสูงและแข็งแรงสูง ประหยัด โดยนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกและรีไซเคิลได้ เหมาะกับงานโครงการทั้งใหม่และเก่า

PLANTERCELL 70 เป็นวัสดุที่ใช้กับสวนดาดฟ้า ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน (Recycled Polypropylene) ได้รับการรับรองฉลากเขียวจากประเทศสิงคโปร์ น้ำหนักเบา สามารถบรรจุน้ำได้ 48 ลิตรต่อตารางเมตร และสามารถใช้เป็นถาดปลูกพืช Replica Breitling Watches UK น้ำและสารอาหารที่จำเป็นจะถูกกักเก็บใน
ที่เก็บน้ำขนาดเล็กและพร้อมให้อาหารกับพืช ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและลดความถี่ในการให้น้ำได้ด้วย

PLANTERCELL 130 เป็นวัสดุที่ใช้กับสวนดาดฟ้า ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลโพลีพรอพโพลีน (Recycled Polypropylene) ได้รับฉลากเขียวจากประเทศสิงคโปร์ น้ำหนักเบา มีจุดกักเก็บน้ำซึ่งบรรจุน้ำได้ 32 ลิตร และสามารถเชื่อมต่อกับถาดที่อยู่ติดกันได้ มีรูระบายน้ำในการนำน้ำส่วนเกินออกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีจุดกระจายน้ำ 2 ช่องทาง สามารถวางซ้อนกันได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ ช่วยให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ดี ลดความถี่ในการให้น้ำกับพืช ยืดหยุ่นสูงและแข็งแรง สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกและรีไซเคิลได้

สารเรืองแสงนวัตกรรมล่าสุุด

บริษัท ฟุโดโซลูชั่น จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและประสานงานธุรกิจ รวมถึงการนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดได้นำเสนอ ผลิตภัณฑ์สารเรืองแสงในที่มืด (Glow Coating / Luminescent Product) ที่มีคุณสมบัติพิเศษขององค์ประกอบหลักคือ สตรอนเซียมอลูมิเนต (Strontium aluminate; SrAl2O4) ซึ่งเป็น Rare Metal ตามธรรมชาติ ไม่ใช่สารกัมมันตภาพรังสีจึงมีความปลอดภัยต่อมนุษย์

โดยหลักการทำงานของสารเรืองแสงจะดูดซับแสงเข้ามาและจะปล่อยแสงที่สะสมไว้ออกมาในช่วงความถี่ที่สายตามองเห็นได้ โดยแสงที่ปล่อยออกมาจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าในที่มืดและจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่อยู่ในที่มืด ซึ่งสารเรืองแสงของฟุโด ได้ผ่านการรับรองตามมาตราฐาน JIS ประเทศญี่ปุ่น โดยส่องแสงสว่างในระดับที่สายตามองเห็นได้ด้วยความเข้มแสงสูงกว่า 3 มิลลิแคนเดลลา ซึ่งจะส่องสว่างได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน 12 ชั่วโมง และยังมีสารเรืองแสงประเภทที่ส่องสว่างได้ 8 ชั่วโมงด้วย ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าประเภทส่องสว่าง 12 ชั่วโมง

สารเรืองแสงนี้สามารถให้แสงสว่างได้ในที่มืด (เวลากลางคืน หรือเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับ) โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟ ดังนั้นจึงไม่มีค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินการ หรือค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมบำรุง อีกทั้งสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร มีประโยชน์สำหรับใช้เป็นสัญลักษณ์อพยพหนีภัยพิบัติ หรือใช้เป็นจุดสังเกตในที่มืด ซึ่งสามารถนำทางและช่วยให้ผู้คนปลอดภัยเมื่อตกอยู่ในสภาวะคับขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุฉุกเฉินที่ระบบไฟฟ้าและระบบส่องสว่างไม่สามารถทำงานได้ นอกจากการใช้งานในกรณีเกิดภัยพิบัติแล้ว ยังสามารถใช้เป็นป้ายบอกทางตามถนนในชนบทที่ไม่มีไฟส่องสว่างหรือไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือในสถานที่ที่ไม่มีอุปกรณ์แสงสว่าง ทั้งยังสามารถติดตั้งได้โดยมีค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าการติดหลอดไฟ LED แบบใช้พลังงานแสงอาทิตย์ถึง 4 เท่า พร้อมด้วยประสิทธิภาพการให้แสงสว่างและความทนทานต่อสภาวะอากาศ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการดับเพลิงและมาตรฐาน JIS ของประเทศญี่ปุ่น

02
ประเภทให้แสงสีเขียวสำหรับใช้ในอาคาร
01
ประเภทให้แสงสีฟ้าสำหรับใช้ภายนอกอาคาร

ผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ประเภทให้แสงสีเขียว (สำหรับใช้ในตัวอาคาร และให้ความสว่างมาก) ลักษณะของผลิตภัณฑ์จะมาในรูปแบบสติ๊กเกอร์ ที่จะให้ความสว่างมากในช่วงแรก ช่วยให้การอพยพหนีภัยมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในตัวอาคารเป็นหลัก เช่น แผ่นป้ายนำทางหนีภัยเรืองแสง เทปทางเดินเรืองแสง แถบราวบันไดหรือแถบคิ้วบันไดเรืองแสง และขอบประตูเรืองแสง เป็นต้น และประเภทให้แสงสีฟ้า (ใช้ภายนอกอาคาร และให้ความสว่างยาวนาน) ลักษณะผลิตภัณฑ์ใช้งานในรูปของสีอิมัลชั่นหรือแผ่นป้ายซิลสกรีน มีคุณสมบัติเด่นที่ความทนทานต่อสภาพความชื้นสูง เหมาะสำหรับใช้งานภายนอกตัวอาคารเป็นหลัก เนื่องจากผ่านการออกแบบให้กันน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษ (ได้รับสิทธิบัตรระหว่างประเทศ WO 2008/136041A1) เหมาะสำหรับใช้เป็นสัญลักษณ์อพยพหนีภัยพิบัติ

ทั้งนี้นอกจากสารเรืองแสงในที่มืดสามารถใช้งานและติดตั้งได้ง่ายแล้วในแง่ของการดูแลรักษากลับทำได้ง่ายยิ่งกว่า โดยไม่มีค่าซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งาน มีแค่การปัดกวาดเช็ดฝุ่นเพื่อให้สารเรืองแสงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเท่านั้น และวัสดุเคลือบผิวที่ใช้ยังมีคุณสมบัติที่ทำความสะอาดได้ง่าย สามารถเช็ดล้างออกได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของสารเรืองแสงอีกด้วย

‘iZZi by iGlass’ กระจกอัจฉริยะปรับใส-ทึบได้

ล่าสุด บริษัท ไทย เยอรมัน สเปเชียลตี้ กลาส จำกัด หรือ (TGSG) ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่สำหรับงานกระจก ด้วยกระจกอัจฉริยะ iZZi by iGlass ซึ่งเป็นกระจกชนิดพิเศษที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งสามารถปรับสภาพจากทึบแสงเป็นโปร่งแสงได้เพียงเสี้ยววินาทีเมื่อมีการจ่ายแรงดันไฟฟ้า 110 โวลท์ เข้าไปในตัวกระจก

กระจก iZZi เป็นกระจกลามิเนต 2 ชั้น ตรงกลางเป็นชั้นฟิล์มผลึกเหลว (Liquid Crystal) ซึ่งจะเรียงตัวเป็นระเบียบเพื่อให้แสงผ่าน โดยกระจกจะมีลักษณะโปร่งใสเมื่อทำการจ่ายกระแสไฟ และผลึกเหลวจะอยู่ในสภาพกระจัดกระจายเพื่อปิดกั้นแสง ทำให้กระจกมีสภาพทึบแสงเมื่อหยุดจ่ายกระแสไฟ เนื่องด้วยคุณสมบัติในการควบคุมแสง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายนอกและภายในอาคาร นอกจากนี้ยังสามารถนำกระจก iZZi ใช้เป็นจอฉายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย

Capture

25

สำหรับการติดตั้งกระจก iZZi หากเป็นงานติดตั้งแผ่นเดียวควรใส่เฟรมรอบ กรณีที่มีกระจกหลายแผ่นมาต่อเรียงกันเป็นผนังหรือฉากกั้น สามารถติดตั้งแบบเว้นระยะ (Butt Joint) โดยการยิงซิลิโคนได้ โดยที่เส้นรอบรูปของของแผงกระจกทั้งหมดอยู่ในเฟรมพลังงานไฟฟ้าที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 110 โวลท์ กำลังไฟที่ใช้ 5 วัตต์ต่อตารางเมตร ความถี่ 50 เฮิร์ซ การนำกระจกอัจฉริยะ iZZi by iGlass ไปใช้งาน สามารถนำมาแทนกระจกเดิมได้ ไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าต่าง ผนังภายนอก ฉากกั้นภายใน รวมถึงฉากสำหรับยิงภาพโปรเจกเตอร์ ผนังสำนักงาน ห้องประชุม ร้านค้า เฟอร์นิเจอร์ ตู้ โต๊ะประชาสัมพันธ์ ตลอดจนพื้นที่รับแขก ห้างสรรพสินค้า ห้องแสดงสินค้า บานประตู และหน้าต่าง ฉากสำหรับโฆษณาประชาสัมพันธ์ พื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือพื้นที่ปลอดภัยสูงก็ได้

กระจกอัจฉริยะ iZZi by iGlass ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในบริเวณที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และทำเป็นฉากแสดงภาพ เนื่องด้วยเป็นกระจกลามิเนต จึงมีความปลอดภัยหากเกิดการแตกร้าวและช่วยป้องกันภัยจากการบุกรุก ป้องกันรังสียูวีได้เกือบทั้งหมดและช่วยลดเสียงรบกวน โดยรุ่นมาตรฐานจะผลิตจากกระจกโฟลท หากต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัย สามารถสั่งผลิตเป็นกระจกเทมเปอร์ได้ นอกจากนี้ยังติดตั้งได้ง่ายเช่นเดียวกับกระจกลามิเนตทั่วไป โดยสามารถผลิตได้ตามขนาดที่ต้องการ ด้วยขนาดความกว้างสูงสุด 1250 มิลลิเมตร ด้านยาวสูงสุด 3000 มิลลิเมตร ส่วนขนาดความหนาโดยรวมของกระจกขึ้นอยู่กับความหนาของกระจกที่นำมาประกอบ เช่น หากใช้กระจกที่มีความหนา 4+4 มิลลิเมตร ความหนารวมจะเท่ากับ 10.68 มิลลิเมตร เป็นต้น

‘METALFORCE PERFORMANCE’ แผงระบายอากาศกันน้ำในหนึ่งเดียว

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ได้แก่ แผงระบายอากาศกันน้ำ METALFORCE ที่ผ่านการทดสอบเต็มรูปแบบในอุโมงค์ลมจากสถาบันทดสอบที่เป็นกลาง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นการทอดสอบเพื่อวิเคราะห์หาข้อมูลระดับการกันน้ำฝน แรงกดอากาศ การไหลผ่านของอากาศ และสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ อ้างอิงตามมาตรฐาน EN13030:2001

1IMG_2051

และล่าสุดแผงระบายอากาศกันน้ำ รุ่น PERFORMANCE ซึ่งเป็นมากกว่ากลไกทางวิศวกรรม ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอาคาร โดยเน้นที่คุณสมบัติการป้องกันน้ำฝนและการระบายอากาศที่ดี โดยมีหลักการทำงานที่จะให้อากาศผ่านเข้าสู่อาคารและป้องกันน้ำฝนไว้ด้านนอก จึงช่วยปกป้องทรัพย์สินภายในอาคารไม่ให้เสียหายจากน้ำฝน และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

สำหรับโครงสร้างของแผงระบายอากาศกันน้ำ รุ่น PERFORMANCE ประกอบด้วย เกล็ดระบายอากาศ วงกบระบายน้ำ คลิปล็อค และชิ้นส่วนอื่น ๆ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แต่ละรุ่นผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมเต็มรูปแบบ เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานที่ต้องการระบายอากาศและป้องกันน้ำฝนที่ดี เหมาะที่จะใช้งานทั้งในอาคารใหม่ และอาคารเดิมที่มีการปรับปรุง มีให้เลือกใช้งานหลายลักษณะขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยแบบมีทั้งแบบใบชั้นเดียว (SINGLE BLADE LOUVER) เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานที่ต้องการระบายอากาศที่ดี และป้องกันน้ำฝนเป็นเรื่องรองลงมา ในขณะที่แบบใบสองชั้น (DOUBLE BLADE LOUVER) ถูกออกแบบมาให้สำหรับพื้นที่ใช้งานที่ต้องการระบายอากาศที่ดี และการป้องกันน้ำฝนที่ดีด้วย และแบบใบสามชั้น (TRIPLE BLADE LOUVER) เหมาะสำหรับพื้นที่ใช้งานที่เน้นการป้องกันน้ำฝนเป็นสิ่งสำคัญ

1IMGP0028

นอกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถแก้ปัญหาให้กับอาคารได้แล้ว PERFORMANCE ยังได้รับการออกแบบให้มีลูกเล่นในการตกแต่งที่หลากหลาย สามารถเปลี่ยนแผ่นตกแต่งที่แผ่นเกล็ดกันน้ำฝนได้ โดยมีให้เลือกใช้งานหลายซีรี่ส์ ได้แก่ Metal Series เป็นแผงระบายอากาศแบบคลาสสิคที่อยู่ในอุตสาหกรรมมายาวนาน ด้วยพื้นผิวแบบดั้งเดิม หน้าตัดอลูมิเนียมรีดขึ้นรูปมาพร้อมกับ 3 ระบบสีให้เลือกใช้ ได้แก่ พีวีดีเอฟ, พาวเดอร์โค้ท และ อะโนไดซ์ ช่วยให้สถาปนิก นักออกแบบ มีอิสระในการเลือกใช้เพื่อตอบสนองต่อการออกแบบได้อย่างเต็มที่, Natural Series เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของความงามจากไม้ธรรมชาติ และหน้าตัดอลูมิเนียมรีดขึ้นรูปเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ให้ความหรูหราที่มาพร้อมกับความอบอุ่นและโฉมหน้าการออกแบบอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อม ช่วยเพิ่มคุณค่าทางประสิทธิภาพที่เหนือกว่าด้วยการรับประกันวัสดุไม้ที่นำมาใช้ ว่ามีคุณสมบัติคงตัว ไม่บิดงอตามกาลเวลา ตัดปัญหาความกังวลจากปลวกและการผุกร่อน และ Nano Series เป็นการออกแบบมาสำหรับงานโครงการที่กำลังมองหาบางสิ่งที่แตกต่าง ด้วยความสวยงามนำสมัยด้วยเส้นสายที่ท้าทายสายตาเมื่อปรากฎอยู่บนอาคาร และด้วยสีสันที่โดดเด่นบนพื้นผิวที่หลากหลาย ช่วยให้สถาปนิก นักออกแบบมีอิสระในการทดลองรูปแบบการออกแบบแนวทางใหม่ ๆ ที่จะทำให้จินตนาการไม่มีขีดจำกัด

‘COOL TIGHT’ สีสะท้อนความร้อน

บริษัท เอสเค คาเคน (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท เอสเคเค ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญเรื่องสีทาอาคารและการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดย SKK เริ่มต้นธุรกิจจากการรีไซเคิลตัวทำละลายและพัฒนาผลิตภัณฑ์สีสูตรน้ำ ซึ่งได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สีทาผนังลายหินธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์สีสะท้อนความร้อน นอกจากนี้ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากวิกฤตการณ์น้ำมันครั้งแรก บริษัทได้ริเริ่มการวิจัยวัสดุจากอนินทรีย์ และประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัสดุอนินทรีย์ Intumescent ซึ่งต่อมาได้พัฒนาจนกลายเป็นสีกันไฟสำหรับโครงสร้างเหล็ก

เอสเคเค ยังได้คิดค้นและผลิตสินค้านวัตกรรมสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ สีสะท้อนความร้อน สีทาพื้น และสีทากันไฟเจ้าแรกของญี่ปุ่นในปีที่ผ่าน ๆ มา SKK ได้ขยายตลาดด้านนวัตกรรม เช่น การพัฒนาสินค้าทดแทนวัสดุจากหินธรรมชาติและวัสดุตกแต่งคุณภาพสูง การพัฒนาสินค้าเพื่อการประหยัดแรงงานและพลังงาน การป้องกันอัคคีภัย การทนต่อสภาวะแผ่นดินไหว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ทำให้เอสเค คาเคน กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสีทาอาคาร

4

ล่าสุดบริษัทได้พัฒนา สีคูลไทท์ (COOL TIGHT) เป็นสีสะท้อนความร้อนโพลียูรีเทนชนิดพิเศษ ที่ออกแบบมาสำหรับงานหลังคา และผนังของบ้าน อาคาร โรงงาน เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์โดยเฉพาะ เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้กับหลังคาเมทัลชีท ที่มักมีปัญหาเรื่องความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ให้ประสิทธิภาพสูง โดยการสะท้อนความร้อนออกจาการตกกระทบของแสงและลดระดับความร้อน เนื่องจากเป็นโพลียูรีเทน จึงไม่จับฝุ่นให้ความเงางาม สวยเนียนเรียบ ทั้งยังเป็นสีทาหลังคาที่ผสมสารเคมีป้องกันเชื้อราและตะไคร่ ให้ฟิล์มสีที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมีและสภาพอากาศร้อน นอกจากคุณสมบัติในการสะท้อนความร้อนแล้ว สคี ลู ไทท์ ยังมีเฉดสีให้เลือกที่หลากหลาย แม้กระทั่งสีดำ ที่ให้ประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อน และลดอุณหภูมิภายในอาคาร เหมาะอย่างยิ่งกับประเทศในเขตร้อนอย่างประเทศไทย

สีคูลไทท์ ยังออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สามารถใช้แปรง ลูกกลิ้ง หรือเครื่องพ่น ในการทำงานได้สามารถใช้ได้ในอาคารใหม่และอาคารเก่า โรงงาน เฉพาะอย่างยิ่งอาคารโรงงาน ที่มีหลังคาเป็นเมทัลชีท เมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม บริษัทมีโซลูชั่นที่จะแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมจากรอยต่อ หรือรูรั่วที่เกิดจากการยึดแผ่นเมทัลชีท ก่อนที่จะทาหรือพ่นทับด้วยสีสะท้อนความร้อนคูลไทท์

นิตยสาร Builder Vol.34 AUGUST 2016

Previous articleProject Review: The Cube Pracha Uthit
Next articleBuild A Life การสร้างพื้นที่แห่งชีวิต
Builder
กองบรรณาธิการนิตยสาร Builder - เดิมเคยเป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ ภายใต้ชื่อ Builder News เผยแพร่เนื้อหาข่าวสารเกี่ยวกับวงการธุรกิจก่อสร้างมากว่า 10 ปี ต่อมาจึงปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นนิตยสารรายเดือนในชื่อว่า Builder เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นไปในยุคปัจจุบัน มุ่งนำเสนอเรื่องราวในวงการก่อสร้าง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบตกแต่ง ตลอดจนความรู้เรื่องวัสดุอย่างครบวงจร