อุณหภูมิเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้คนหันมาเลือกใช้สีกันความร้อน เนื่องจากอุณหภูมิในประเทศไทยที่สูง โดยในปีพ.ศ. 2567 ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้คือ 44.2 องศาเซลเซียส นับได้ว่าเป็นอุณหภูมิที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ก็จะมากขึ้นตาม ทำให้ค่าไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนของแต่ละบ้านหรือแต่ละบริษัทสูงขึ้น ดังนั้นหนึ่งในนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยลดปัญหาด้านอุณหภูมิที่สูงในตัวบ้านและอาคารคือสีกันความร้อน แล้วสีกันความร้อนสามารถกันความร้อนได้อย่างไร? มาหาคำตอบกันครับ
สีกันความร้อนเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? จากที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น อุณหภูมิคือปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาขึ้นของสี แรกเริ่มเดิมทีเป็นการพัฒนาจากการใช้วัสดุทั่วไปที่มีสีอ่อนหรือการใช้เฉดสีเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการลดอุณหภูมิ แต่ยังมีข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน คือสะท้อนแสงได้เพียงบางส่วน ต่อมาสีได้ถูกพัฒนาโดยการเริ่มผสมสารสะท้อนรังสีอินฟราเรด ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่สามารถสะท้อนรังสีได้มากขึ้น จึงทำให้เริ่มมีการพัฒนาสารสะท้อนความร้อนขึ้นจนสามารถสะท้อนรังสีได้มากกว่า 1 ชนิด และประสิทธิภาพดีกว่าเดิม จนมาถึงปัจจุบันได้มีการใช้เทคโนโลยีอย่างนาโนเซรามิก และเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นได้มากกว่าการกันความร้อน
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้เริ่มมีการพัฒนาตัวสีกันความร้อน เพื่อเพิ่มประโยชน์ต่อผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด จึงพัฒนาสีที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิตามสภาพอากาศได้ และในอนาคตเราจะได้เห็นสีที่สามารถเปลี่ยนให้ห้องอุ่นเมื่ออากาศเย็น และเปลี่ยนให้ห้องเย็นเมื่ออากาศร้อนได้อย่างแน่นอน เมื่อรู้ว่าสีกันความร้อนถูกพัฒนาขึ้นมาจากปัจจัยของอุณหภูมิเป็นส่วนสำคัญ แล้ว “สี” กันความร้อนได้อย่างไร
สีกันความร้อนมีหน้าที่อะไร และกันความร้อนได้อย่างไร?
สีกันความร้อนทำหน้าที่ในการสะท้อนแสงแดด รังสีอินฟราเรด (Infrared) และรังสียูวี (UV) ไม่ให้ดูดซับเข้าสู่ผนังบ้านและอาคาร และทำให้อุณหภูมิภายในต่ำลง โดยแบรนด์สีแต่ละแบรนด์ได้นำเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและสะท้อนแสงแดด รังสีเหล่านี้ เช่น ผงสีสะท้อนความร้อน ทำหน้าที่เสมือนแผ่นฟิล์มที่คอยสะท้อนรังสีและแสงแดดไม่ให้ดูดซับเข้าภายใน และเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่แบรนด์สีหลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้ ฉนวนไมโครสเฟียร์เซรามิก (Microsphere Ceramic) เป็นเซรามิกที่มีความพิเศษคือสามารถทนต่อความร้อนได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกติดตั้งบนกระสวยอวกาศขององค์กรนาซ่า ซึ่งตัวของเซรามิกมีคุณสมบัติต้านทานรังสีอัลต้าไวโอเลต ช่วยป้องกันและรักษาอายุการใช้งานของหลังคา และผนังได้เป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีที่ได้กล่าวมาเป็นส่วนที่ถูกพัฒนาเพื่อทำให้อาคารและตัวบ้านไม่เกิดความร้อนสะสมมากเกินไป เมื่อความร้อนไม่ถูกสะสมผ่านผนัง หรือสะท้อนจากหลังคาอุณหภูมิความร้อนด้านนอกตัวอาคารจึงไม่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในตัวอาคารหรือบ้านตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามเฉดสีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถลดอุณหภูมิภายในอาคารบ้านเรือนได้เช่นเดียวกัน เมื่อนำมาใช้ร่วมกับสีกันความร้อนจะทำให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพสูงขึ้น เฉดสีไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในการสร้างสุนทรีย ความงาม และบรรยากาศให้กับตัวบ้านและอาคาร แต่ยังมีบทบาทหน้าที่อื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งาน ทำให้ปัจจุบันสีทากันความร้อนถูกพัฒนาให้มีเฉดสีที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้คนสามารถเลือกใช้งานให้เข้ากับวิถีชีวิตและความชอบของตนเองได้
ข้อดีจากการใช้สีกันความร้อนมีอะไรบ้าง?
สีกันความร้อนไม่ได้มีข้อดีเพียงสะท้อนแสงแดด รังสียูวี รังสีอินฟราเรด และลดอุณหภูมิภายในอาคารให้เย็นลงเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้รับผลตามมาจากหน้าที่ของสีกันความร้อนคือ ภาระของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดลง เนื่องด้วยอุณหภูมิภายในบ้านหรืออาคารที่ต่ำลงการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะใช้กำลังน้อยลง พร้อม 1. ยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในอาคารหรือตัวบ้านได้ไม่มากก็น้อย เมื่อการใช้กำลังของเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง 2. ค่าไฟฟ้าก็ลดลงตาม แน่นอนว่าอุณหภูมิภายในอาคารบ้านเรือนมีผลต่อการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เมื่ออุณหภูมิภายในอาคารต่ำการทำงานของเครื่องจะน้อยลงค่าไฟฟ้าก็ลดลง ในทางกลับกันเมื่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นเครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักขึ้นค่าใช้ไฟฟ้าก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 3. การปล่อยมลพิษที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง มลพิษที่เกิดจากการใช้เครื่องปรับอากาศเช่น ก๊าสเรือนกระจก และก๊าสคาร์บอนไดออกไซด์ ถูกปล่อยออกมาน้อยลงเมื่อเครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง
อย่างไรก็ตามสีกันยังคงถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งานสูงสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง หรือ Nanyang Technological University (NTU) ในประเทศสิงคโปร์ ได้ลงตีพิมพ์ผลงานเกี่ยวกับสีกันความร้อนบนวารสาร Sustainable Cities and Society โดยพยายามชี้ให้ว่าการเพิ่มสารที่ช่วยสะท้อนความร้อนลงในสีสามารถลดการสะสมของอุณหภูมิได้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันสีกันความร้อนถูกพัฒนาให้ใช้ได้โดยกว้าง ไม่เพียงแต่ใช้ทาผนังบ้านหรืออาคาร แต่ยังสามารถนำไปทาโลหะและกระเบื้องได้เช่นเดียวกัน รวมถึงแบรนด์สีหลายแบรนด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนให้มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ มากขึ้นเช่น ติดทนนาน ลบคราบสกปรกออกง่าย กันน้ำ บางแบรนด์ช่วยป้องกันเชื้อราบนพื้นผิว ด้วยคุณสมบัติที่มีความหลากหลายผู้คนจึงเริ่มหันมาใส่ใจกับการเลือกใช้สีทาบ้านและอาคาร เพราะผู้คนไม่ได้มองเพียงเรื่องความสวยงามอีกต่อไป แต่มองในภาพของการใช้งาน หรือประโยชน์ใช้สอยรวมด้วยเช่นเดียวกัน
เรื่องราวของสียังมีอะไรให้กล่าวถึงอีกมาก ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ การใช้งานที่หลากหลาย การประกอบสร้างอารมณ์รู้สึกร่วม การแสดงความหมายของสถาปัตยกรรม เป็นต้น สามารถเดินชมความน่าสนใจในเรื่องราวของสีได้ ตามบูธจัดแสดงสินค้าและตัวแทนแบรนด์สีต่าง ๆ ได้ในงานสถาปนิก’ 69 ครับ