Builder ข่าวก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมก่อสร้าง

กำลังคิดเรื่องติดตั้งลิฟท์บ้านอยู่ใช่ไหม? ลิฟท์บ้านในยุคนี้ไม่ได้จำกัดแค่บ้านหรู หรือมีไว้สำหรับผู้สูงวัยอีกต่อไป แต่กลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัวไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ที่พลุกพล่าน หรือในเชียงใหม่ที่เงียบสงบ แล้วอะไรคือเหตุผลหลักที่เจ้าของบ้านมักนิยมติดลิฟท์กันมากขึ้น 1.ติดลิฟท์เพื่อความปลอดภัยของคนที่คุณรัก ในสังคมไทย “ครอบครัวมาก่อน” เสมอ การดูแลพ่อแม่ที่สูงวัยให้อยู่บ้านเดียวกันอย่างสะดวกและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อลูกหลานเห็นพ่อแม่ลำบากกับการขึ้นลงบันไดทุกวัน มันไม่ใช่แค่เรื่องความลำบาก แต่คือความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้าม ลิฟท์บ้านจาก Cibes Lift ช่วยยกระดับบ้านเดิมให้ สะดวก ปลอดภัย และเหมาะกับทุกวัยในครอบครัว โดยไม่ต้องทุบหรือปรับโครงสร้างใหญ่ การมีลิฟท์ในบ้านช่วยให้ ผู้สูงวัยขึ้น-ลงชั้นได้อย่างมั่นใจ ลดความเสี่ยงจากการใช้บันได และยังเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กหรือผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ด้วยการติดตั้งลิฟท์แบบที่นำชิ้นส่วนแยกกันมา แล้วนำมาประกอบที่บ้านของคุณได้เลย ทำให้การติดตั้งเป็นไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องปรับปรุงโครงสร้างบ้าน รวมถึงมีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย สวยกลมกลืนกับทุกสไตล์การตกแต่งของบ้าน แม้จะต้องมี งบประมาณเริ่มต้นสำหรับการติดตั้ง แต่เจ้าของบ้านจำนวนมากบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “รู้สึกอุ่นใจขึ้นทันทีเมื่อมีลิฟท์บ้าน” เพราะช่วยให้...

การติดตั้งลิฟท์บ้านในประเทศไทยเคยถูกมองว่าเป็นเรื่องของบ้านหรูเท่านั้น แต่ทุกวันนี้ ลิฟท์บ้านกลายเป็นการอัปเกรดที่ “คุ้มค่าและเป็นไปได้” แม้กระทั่งในทาวน์เฮ้าส์แคบ ๆ ในกรุงเทพฯ หรือบ้านไทยดั้งเดิมในต่างจังหวัด ก็สามารถติดลิฟท์บ้านได้เช่นกัน เพราะหนึ่งในหัวใจสำคัญของการติดลิฟท์ คือ การเลือก “ตำแหน่ง” ที่เหมาะสมกับโครงสร้างของบ้านคุณ ทาง Cibes Lift จึงอยากแชร์ 3 จุดติดตั้งลิฟท์ที่เจ้าของบ้านเลือกติดมากที่สุด พร้อมเหตุผลว่าแต่ละจุดเหมาะกับบ้านแบบใด และมีข้อควรรู้อะไรก่อนตัดสินใจติดตั้ง 1. กลางช่องบันได (In the middle of the staircase) ใช้พื้นที่ว่างกลางบันไดอย่างคุ้มค่า ถ้าบ้านของคุณมีบันไดวนหรือบันไดรูปตัว U ที่มีช่องกลางเปิด ช่องว่างแนวตั้งนี้คือพื้นที่ทองคำสำหรับติดตั้งลิฟท์บ้าน เพราะไม่กินพื้นที่ใช้สอยเดิม และดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบ้านตั้งแต่ต้น ทำไมทาง...

งานสถาปนิก’69 ที่กำลังจะมาถึงในปีหน้าเริ่มต้นต่างจากทุกปีที่ผ่านมา เพราะเป็นครั้งแรกของการใช้ระบบสรรหาประธานจัดงานสถาปนิก (Open Call) เปิดโอกาสให้ผู้สนใจที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ร่วมสมัคร หลายๆ คน จับตาว่าท่ามกลางแคนดิเดตที่โดดเด่น ใครจะได้รับบทบาทนี้และจะนำเสนอแนวทางจัดงานในทิศทางไหน เพื่อคลายข้อสงสัยทั้งหมด วันนี้เรามาที่สมาคมสถาปนิกสยามฯ เพื่อชวนคุณไปทำความรู้จัก พูดคุย และแชร์แนวคิดมุมมองร่วมกับเขา ประธานจัดงานสถาปนิก’69 ‘เดี่ยว – จาตุรนต์ กิ่งมิ่งแฮ’ MEET THE CHAIRMAN – SHARE MAN จาตุรนต์ กิ่งมิ่งแฮ คือผู้ก่อตั้งและสถาปนิกของ Creative Territories ผ่านประสบการณ์การทำงานกว่า 20 ปีทั้งในและต่างประเทศ เขาร่วมงาน กับ Büro-OS Group บริษัทสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติในตำแหน่งหัวหน้าสถาปนิกและกรรมการผู้จัดการของสำนักงานที่ขยายมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนร่วมในโครงการสำคัญมากมาย กระทั่งต่อมาเมื่อสั่งสมประสบการณ์จนถึงจุดที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางของตนเอง เขาจึงตัดสินใจออกมาก่อตั้งสตูดิโอ Creative...

การออกแบบบ้านโดยสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย เป็นความต้องการหลักของ Wise Builder เพื่อให้บ้านเป็นไปตามความต้องการพร้อมกับสร้างศิลปะผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขกับการอยู่ในบ้านของตนเอง Wise Builder สตูดิโอออกแบบและสร้างบ้านบนผืนที่ดินเปล่า ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการให้บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นตัวตนที่สามารถดีไซน์ขึ้นได้ หรือเรียกกันว่าบ้าน Custom Made ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ประสบการณ์จากโครงการที่พักขนาดใหญ่ที่ได้หยิบนำเอามาประยุกต์ให้เข้ากับบ้านเฉพาะบุคคลโดยยังคงความละเอียดลออ คอนเซปต์หลักอย่าง ‘Wise Builder: ฉลาดสร้าง อย่างครบวงจร’ เป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างแก่แบรนด์ เพราะนอกจากจะเน้นไปที่ด้านการบริการรับก่อสร้างบ้าน และบริการออกแบบบ้านแบบครบวงจรในที่เดียวแล้ว กลับสามารถควบคุมงบประมาณของลูกค้าได้ ด้วยการก่อตั้งที่ต้องเกิดจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก นั่นทำให้การออกแบบบ้านได้กลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่กำเนิดจากความตั้งใจ และตัวตนของบ้านผ่านการรังสรรค์ของทีมสถาปนิกที่มีความเชี่ยวชาญตลอดระยะกว่า 15 ปี และองค์ความรู้ส่วนนี้เองที่ทำให้ Wise Builder มั่นใจว่ามาตรฐานการบริการของตนเองจะทำให้บ้านในฝันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด นอกจากนั้นยังมีจุดแข็งจากการที่ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนบ้านของตนไปตามความต้องการด้วยการมองหาแนวทางร่วมกัน ดังนั้นการก้าวไปตามเทรนด์ของสังคมจึงควบคู่ไปกับจุดแข็งนี้ โดยในเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ...

กว่า 30 ปีที่ “จระเข้” อยู่เคียงข้างอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย แบรนด์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง ที่ไม่เพียงตอบโจทย์งานสถาปัตกยรรมและการใช้งานจริง แต่ยังสอดรับกับ แนวคิดความยั่งยืน ที่กำลังเป็นทิศทางหลักของโลกปัจจุบันและอนาคต ในงานสถาปนิก’68 จระเข้ คอร์ปอเรชั่นได้ตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำ ด้วยการนำเสนอวิสัยทัศน์ภายใต้แนวคิด “Beyond Pain Point” ที่สะท้อนความตั้งใจของบริษัทในฐานะ Solution Provider ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่แท้จริงของวงการก่อสร้าง ตั้งแต่เรื่องฝุ่นละออง ความปลอดภัย ระยะเวลาในการทำงาน ไปจนถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จาก Pain Point สู่นวัตกรรมก่อสร้างที่เปลี่ยนมาตรฐาน “Beyond Pain Point” ไม่เพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ แต่ยังมุ่งแก้ปัญหาหลักของวงการก่อสร้างอย่างตรงจุด นวัตกรรมสำคัญที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ...

REP FLOOR บริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปูนสำหรับงานก่อสร้าง และฐานะผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ทั้งด้านการผลิต คุณภาพ และการตลาด โดยอยู่ในวงการมานานกว่า 21 ปี นำเสนอหลากหลายโซลูชั่นในงานสถาปนิก’68 ด้วยเป้าหมายและสร้างจุดยืนในอุตสาหกรรมด้วยความต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Polished Concrete ประกอบกับกลยุทธ์ทางการตลาดที่มอบความเฉพาะตัว ความรู้และความเข้าใจสอดคล้องกับความต้องการในการใช้งาน ในงานสถาปนิก’68 REP FLOOR ส่ง CrystalTop ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้งานปูนทั่วไปที่ไหลตัวช้า หดตัว และเซ็ตตัวช้าเมื่อเจอกับความร้อน โดยได้นำนวัตกรรมระดับสูง Cement Base Overlay ชนิดพิเศษที่ผสานเข้ากับ Anti Crack Cement ซีเมนต์สูตรพิเศษที่ถูกพัฒนาขึ้นมาลดปัญหาแตกร้าวและการหลุดร่อน...

จุดเริ่มต้นของ B-yond Architecture B-yond Architecture คือสตูดิโอสถาปัตยกรรมที่เกิดจากความหลงใหลในการ “ก้าวข้ามกรอบเดิม” ทั้งในแง่ความคิดและวิธีการออกแบบ ก่อตั้งโดย เดอะเจ-นิธิโชติ เสตะจันทน์ Founder & Managing Director ด้วยความตั้งใจอยากสร้างงานที่ไม่ได้หยุดแค่ทำให้บ้านดูสวย แต่ทำให้บ้านตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อาศัยจริง ๆ เส้นทางของเดอะเจเริ่มจากการทำงานในบริษัทออกแบบระดับแนวหน้าอย่าง A49 ได้สัมผัสทั้งงานอาคารสูงและโครงการที่ซับซ้อน ทำให้เข้าใจการทำงานจริงตั้งแต่การวางคอนเซปต์จนถึงขั้นก่อสร้าง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาตัดสินใจออกมาเริ่มต้นใหม่ในช่วงโควิด และลองทำงานอิสระเพื่อค้นหาวิธีทำงานที่สอดคล้องกับแนวคิดของตัวเอง ช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยบทเรียนที่ท้าทาย เดอะเจรับงานเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่พูดคุยกับลูกค้า ออกแบบ ทำภาพ 3D ไปจนถึงเรนเดอร์แบบกว่า 30 โปรเจกต์ แต่ปิดได้จริงเพียงไม่กี่หลัง “มีคนเคยถามผมตรง ๆ...

Minima House บริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายวัสดุระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าแบรนด์เป็นดั่งสะพานเชื่อมนำสินค้าที่มีเสน่ห์อันเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึง-เสน่ห์ในแบบสไตล์ญี่ปุ่น แบรนด์มองว่าผลิตภัณฑ์มีหัวใจหลักอยู่ที่ความสวยที่มาพร้อมประโยชน์ นั่นทำให้คุณภาพและความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ถูกมุ่งเน้น ส่งผลให้ต้องมีการผ่านการทดสอบ เพราะผลิตภัณฑ์ต้องมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทยซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น MIGUSA TATAMI เสื่อทาทามิ ทนต่อเชื้อรา ความชื้นและดูแลง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไปจนถึงความพร้อมที่จะให้บริการติดตั้งและคำปรึกษา เพื่อประสบการณ์ที่ดีเมื่อได้ใช้สินค้า ภายในงานสถาปนิก’68 Minima House สร้างประสบการณ์แก่ผู้เข้าชมงานด้วยการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมโซลูชั่นการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนจากบ้านธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นบ้านที่มีกลิ่นอายและเสน่ห์แบบญี่ปุ่น โดยการนำเสนอ Ecoqueen Floor Gen2 พื้นลายไม้จากวัสดุ PP (polypropylene) มาตรฐาน JIS ตอกย้ำด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันปลวก และไม่หดหรือขยายตัวเมื่อมีอุณหภูมิสูง...

PODIUM ยึดมั่นว่า ‘บ้าน’ สะท้อนรสนิยมของเจ้าของ ซึ่งส่งผลให้ทุกการออกแบบต้องสัมผัสได้จริงทั้ง วัสดุ ฟังก์ชัน ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และตอบสนองพฤติกรรมการใช้งาน โดยสื่อสารผ่านงานสถาปนิก’68 ในพื้นที่ถ่ายทอดทั้งแนวคิดและผลิตภัณฑ์แก่ผู้เข้าชมงาน PODIUM นิยามเฟอร์นิเจอร์กึ่งบิวท์อินจากคอลเลกชัน BLOC SMITH จากระบบโมดูลาร์ ด้วยแนวคิด ‘Sense of Design’ ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ต้องสัมผัสได้ถึงคุณภาพ โดยการเลือกใช้ ‘ไม้จริง’ มาเป็นหัวใจหลักควบคู่กับการใส่ใจต่อการออกแบบในทุกรายละเอียด แบรนด์ขยายขอบเขตด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่เป็น Lifestyle Brand ซึ่งสร้างพื้นที่ของแรงบันดาลใจให้กับดีไซเนอร์และผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงแบรนด์อย่างลึกซึ้ง พร้อมกับการผลักดัน Podium lite ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยการใช้ไม้บีชจากแหล่งป่ายั่งยืนในยุโรปและอเมริกา ผ้าหุ้มจากเส้นใยรีไซเคิลแบบไม่ผ่านการย้อมสีใหม่ และสต็อกสินค้าที่พร้อมจัดส่งในรูปแบบ...

อุณหภูมิเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้คนหันมาเลือกใช้สีกันความร้อน เนื่องจากอุณหภูมิในประเทศไทยที่สูง โดยในปีพ.ศ. 2567 ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้คือ 44.2 องศาเซลเซียส นับได้ว่าเป็นอุณหภูมิที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ก็จะมากขึ้นตาม ทำให้ค่าไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนของแต่ละบ้านหรือแต่ละบริษัทสูงขึ้น ดังนั้นหนึ่งในนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยลดปัญหาด้านอุณหภูมิที่สูงในตัวบ้านและอาคารคือสีกันความร้อน แล้วสีกันความร้อนสามารถกันความร้อนได้อย่างไร? มาหาคำตอบกันครับ   สีกันความร้อนเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? จากที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น อุณหภูมิคือปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาขึ้นของสี แรกเริ่มเดิมทีเป็นการพัฒนาจากการใช้วัสดุทั่วไปที่มีสีอ่อนหรือการใช้เฉดสีเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการลดอุณหภูมิ แต่ยังมีข้อจำกัดหลาย ๆ ด้าน คือสะท้อนแสงได้เพียงบางส่วน ต่อมาสีได้ถูกพัฒนาโดยการเริ่มผสมสารสะท้อนรังสีอินฟราเรด ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่สามารถสะท้อนรังสีได้มากขึ้น จึงทำให้เริ่มมีการพัฒนาสารสะท้อนความร้อนขึ้นจนสามารถสะท้อนรังสีได้มากกว่า 1 ชนิด และประสิทธิภาพดีกว่าเดิม จนมาถึงปัจจุบันได้มีการใช้เทคโนโลยีอย่างนาโนเซรามิก และเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นได้มากกว่าการกันความร้อน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันได้เริ่มมีการพัฒนาตัวสีกันความร้อน เพื่อเพิ่มประโยชน์ต่อผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด...

KG Solar ผู้นำโซลูชันประหยัดพลังงานแบบครบวงจรควบคู่กับความตั้งใจที่จะนำพลังงานสะอาดสู่บ้านทุกหลัง เพื่อมอบคุณภาพที่ดี และสร้างความตระหนักถึงประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บในงานสถาปนิก’68 ปัจจัยสำคัญของความก้าวหน้าของแบรนด์ ได้แก่ การสร้างความเชื่อมั่นด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญและจากประสบการณ์ในการดูแลระบบด้วยคุณภาพโซลูชันและบริการที่ครอบคลุมได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ตามมาตรฐานสากล ทั้ง ISO 9001:2015 และ ISO 50001:2018 นอกจากนั้นโซลูชันที่แบรนด์พัฒนายังสอดรับกับแนวคิด Green Construction และ ESG เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่กำลังให้ความสนใจในเทรนด์นี้ รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่ KG Solar เลือกเสนอโซลูชันประหยัดพลังงาน เพื่อสนับสนุนผู้ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างอาคารซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความยั่งยืนผสานกับสถาปัตยกรรมอย่างลงตัว ในงานสถาปนิก’68 KG Solar เปิดตัว Tesla Powerwall อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Tesla Energy...

TAITA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสกรูเมทัลชีท ภายใต้ความร่วมมือกับ Mr. Screw ด้วยเป้าหมายที่จะตอบสนองความต้องการและสร้างมุมมองใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้ผู้เข้าชม ให้โครงการก่อสร้างสะท้อนคุณภาพของฮาร์ดแวร์และเครื่องมือที่มีคุณภาพ ในงานสถาปนิก’68 กระบวนการผลิตของ TAITA เริ่มจากการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และความเฉพาะตัวด้วยสูตรเมทัลชีทของแบรนด์ ประกอบด้วยคุณสมบัติที่มีความคม ทนทาน ไม่ขึ้นสนิม พร้อมกับไม่ทำให้กระบวนการผลิตส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยที่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ ให้สิ่งที่ดีต่อแบรนด์ดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน และการเติบโตที่เกิดจากความใส่ใจและการบริการที่รวดเร็ว สต๊อกสินค้าที่พร้อมส่งจากระบบตัวแทนจำหน่าย และจุดกระจายสินค้า ซึ่งทำให้การส่งมอบผลิตภัณฑ์เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว โดยผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์นำเสนอ ได้แก่ สกรูเจาะตนเองและสกรูต๊าปเกลียวครบวงจร ซึ่งได้รับมาตรฐานออสเตรเลีย AS3566 สามารถเจาะ ทำลายเกลียว และยึดติดได้ในขั้นตอนเดียว เหมาะสำหรับการใช้งานระหว่างเหล็กกับไม้ ไปจนถึงเหล็กกับเหล็ก นอกจากนั้นยังหลากหลายมากขึ้นด้วยสกรูปลายสว่านยึดเหล็ก สกรูปลายสว่านยึดไม้ สกรูหัวสี และสกรูหลังคาโพลีคาร์บอเนต ซึ่งในงานสถาปนิก’68...

“ซีพีเอฟ” มุ่งสู่เป้าหมายบนเส้นทางแห่งความยั่งยืน ยกระดับโครงการก่อสร้างอาคาร-โรงงานด้วยมาตรฐาน “อาคารเขียว” (TREES) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นสร้างความยั่งยืนด้านการใช้พลังงานของอาคาร พร้อมส่งเสริมสุขภาวะอนามัยที่ดีของผู้ใช้อาคาร ชูไฮไลต์โครงการ “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมหนองจอก” โครงการอาคารเขียว ระดับ PLATINUM โดยซีพีเอฟได้ผนึกกำลังกับผู้นำด้านสีนวัตกรรมทาอาคารรักษ์โลก “นิปปอนเพนต์” ร่วมกันยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างสู่สังคมที่ยั่งยืน คุณพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยถึงพันธกิจด้านความยั่งยืนของซีพีเอฟที่ได้วางเป้าหมายมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emissions) ภายในปี 2050 โดยส่วนหนึ่งของพันธกิจนี้ ซีพีเอฟได้มีการยกระดับการก่อสร้างอาคารและโรงงานต่างๆ ของบริษัทฯ ให้ได้มาตรฐาน...

ในงานสถาปนิก’68 Treeconcept ได้สร้างความน่าสนใจในฐานะแบรนด์ไม้เทียมที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องความทนทานและความสวยงาม แต่ยังผลักดันแนวคิด “การออกแบบที่มีความหมาย” ซึ่งสะท้อนความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ของผู้ใช้งานในทุกมิติ ภายใต้การดูแลของทีมงานจากบริษัท โพลีเมอร์ มาสเตอร์ จำกัด Treeconcept นำเสนอนวัตกรรมวัสดุไม้เทียมรุ่นใหม่ที่ผสานพื้นผิวสมจริง สีสันที่ร่วมสมัย และคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทน UV ป้องกันปลวก หรือกันลื่นในพื้นที่เปียก ทั้งยังเหมาะกับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ คือวิธีคิดของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเสียงของลูกค้า Treeconcept นำข้อมูลจากการพบปะผู้ใช้งานจริงในงานสถาปนิกปีก่อน มาต่อยอดสู่การพัฒนารุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ได้ลึกกว่าเดิม ทั้งในด้านดีไซน์ ฟังก์ชัน ไปจนถึงระบบบริการครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบ ไปจนถึงติดตั้งโดยทีมช่างมืออาชีพ อีกจุดเด่นที่สื่อสารได้ชัดเจนในงานครั้งนี้ คือการเน้นย้ำบทบาทของ Treeconcept ในฐานะส่วนหนึ่งของการออกแบบที่คำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว วัสดุไม้เทียมของแบรนด์ผลิตจากพลาสติกและเศษไม้รีไซเคิล ช่วยลดการใช้ไม้จริง...

  Remood ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ‘วัสดุตกแต่งควรสวย ใช้งานง่าย และปลอดภัยสำหรับทุกชีวิตทั้งในและนอกบ้าน’ จึงได้นำเสนอมิติความงามให้พื้นที่อยู่อาศัย แต่มุ่งสร้างความสบายใจให้ผู้อยู่อาศัยทุกมิติควบคู่กันไปในงานสถาปนิก’68 ภาพลักษณ์ของแบรนด์จึงเปลี่ยนภาพเดิม ๆ ของวัสดุตกแต่งบ้านพร้อมกับความยั่งยืน ผ่านคำมั่นสัญญาของแบรนด์ว่า ‘remood…elevate your space with ease. นวัตกรรมเพื่อพื้นที่ของคุณ’ เพิ่มความงามและความสบายใจให้ผู้อยู่อาศัยในทุก ๆ ด้าน นอกจากนั้นด้วยการมีโรงงานผลิตจึงทำให้แบรนด์ควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ทั้งการออกแบบ และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการวัสดุแบบ semi-customized อย่างลงตัว ส่งผลให้การแต่งบ้านไม่ใช่เรื่องที่น่าปวดหัว หรือเต็มไปด้วยข้อจำกัดทางเทคนิค โดยผลิตภัณฑ์ของ Remood ทุกชิ้นถูกออกแบบมาด้วยความเข้าใจผู้ใช้งาน ทำให้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ผลิตวัสดุตกแต่ง แต่คือพาร์ทเนอร์ที่พร้อมช่วยให้ทุกการตกแต่งบ้านนั้น ง่าย สบาย และยังเป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้งานในทุกระดับ ในงานสถาปนิก’68 Remood...